|
ความหมายของเพลงพืนบ้าน
ที่กลุ่มชนในท้องถิ่นต่างๆ ประดิษฐ์เนื้อหา ท่วงทำนองและลีลาการร้องการเล่น
เป็นแบบแผนตามความนิยมและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้น..
|
|
ที่มาและพัฒนาการของเพลงพืนบ้าน
เพลงพื้นบ้านของไทยเรานั้นมีมาช้านานแล้ว ถ่ายทอดกันโดยทางมุขปาฐะ จำ
ต่อๆ กันมาหลายชั่วอายุคน เชื่อกันว่ามีกำเนิดก่อนศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง
มหาราชเสียอีก..
|
|
ประเภทของเพลงพื้นบ้าน
เพลงพื้นบ้านโดยทั่วไปนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด พอจะแยกประเภทได้ ดังนี้คือ
แบ่งตามผู้เล่นได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1.เพลงเด็ก 2.เพลงผู้ใหญ่..
|
|
ลักษณะของเพลงพื้นบ้าน
เป็นการเกี้ยวพาราสี หรือการซักถามโต้ตอบกัน ความเด่นของเพลงพื้นบ้านอยู่ที่
ความไพเราะ คารมหรือถ้อยคำง่ายๆ แต่มีความหมายกินใจ ใช้ไหวพริบปฏิภาณ
ในการร้องโต้ตอบกั้น..
|
|
แก่นแท้เพลงพื้นบ้าน
เพลงพื้นบ้านเป็นงานของชาวบ้านซึ่งถ่ายทอดมา โดยการเล่าจากปากต่อปาก อาศัยการฟังและการจดจำไม่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ข้อที่น่าสังเกต
ก็คือ..
|
|
ความเรียบง่ายของเพลงพื้นบ้าน
เพลงพื้นบ้านยังคงยึดถือลักษณะดั้งเดิมของมนุษย์เอาไว้ ข้อนี้อาจจะทำให้เรา
เห็นว่าเพลงพื้นบ้านขาดการปรับปรุงและขาดวิวัฒนาการ ที่จริงการร้องเพลงที่มี
ีเครื่องดนตรีประกอบมากๆ ก็ไพเราะอย่างหนึ่ง..
|
|
การเน้นความสนุกสนานเป็นหลัก
เพลงพื้นเมืองของเราจึงมักเน้นอยู่สองอย่าง ซึ่งจะออกมาในรูปของการใช้คำ
สองแง่สองง่าม การเว้นเสียงซึ่งเรื่องที่ทุกข์มากๆ การใช้คำสองแง่สองง่าม อย่างเช่น เพลงฉ่อยของโรงพิมพ์วัดเกาะ..
|
|
การมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน
ลักษณะเด่นที่สุดของเพลงพื้นบ้าน คือ มีความเรียบง่าย ฟังแล้วเข้าใจทันที ถ้า จะมีการเปรียบเทียบแฝงสัญลักษณ์อย่างไร ก็สามารถแปลความหมายได้โดยไม่
ยากนัก..
|
|
รูปแบร่วมของเพลงพื้นบ้าน
แยกกว้างๆ ได้เป็นด้านเนื้อหา และการเรียงลำดับเรื่อง ด้านถ้อยคำ ด้านเนื้อหา
และการเรียงลำดับเรื่อง เนื่องจากเพลงพื้นเมืองยังแยกได้ออกเป็น เพลงโต้ตอบ
อย่างสั้น และเพลงโต้ตอบอย่างยาวอีก และเนื้อหารูปแบบของเพลง 2 พวก อาจ
แยกได้ด้วย เพื่อความสะดวก เราจึงแยกพิจารณาเช่นกัน..
|
|
บัญญัติแปดประการ
บัญญัติ 8 ประการที่นิยามกว้างๆ ไว้แล้วนั้น ใช่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่เพิ่งพบ
เพียงแค่เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้วเท่านั้น จากทฤษฎีที่ตั้งขึ้นนี้ เชื่อว่าบัญญัติ 8 ประ
การนี้ คนไทยเราปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างครบถ้วนตั้งแต่คนไท คนไตกลุ่มต่างๆ
ยังไม่รวมตัวกันมาสถาปนา..
|
|
เพลงปฏิพากย์
คำว่า “ปฏิ” หมายถึง โต้ตอบ ส่วนคำว่า “พากย์” หมายถึง การใช้คำพูด ดังนั้น เพลงปฏิพากย์จึงหมายถึงเพลงที่ร้องโต้ตอบกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง โดยใช้
้ปฏิภานไหวพริบหรือที่เรียกว่า “ร้องแก้” นั่นเอง..
|
|
การแบ่งภูมิภาคเพลงพื้นบ้าน
เพลงพื้นบ้านภาคกลาง, เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ, เพลงพื้นบ้านภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ, เพลงพื้นบ้านภาคใต้..
|
|
คุณค่าของเพลงพื้นบ้าน
เพลงพื้นเมืองเป็นมรดกทางวรรณกรรม ชาวบ้านนิรนามได้แต่งเพลงของเขาขึ้น
บทเพลงนี้อาจจะมาจากความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน และความอยู่ไม่สุขของ
ปาก แต่บังเอิญหรือบางทีไม่ใช่บังเอิญ เพลงของเขาไพเราะและกินใจชาวบ้าน
คนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นเพลงดังกล่าวจึงได้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ และในที่สุด ไม่
มีใครรู้ว่าใครเป็นคนแต่งเพลงบทนั้น และแต่งเมื่อใด..
|