เพลงปฏิพากย์ภาคเหนือ ได้แก่ จ๊อย และซอทำนองต่างๆ เช่นซอพม่า ซอล่องน่าน ซอขึ้นเชียงใหม่
ซอละม้ายเชียงแสน ซอเงี้ยว
เพลงซอ ทำนองซอละม้ายหญิง |
น้อยมานพอ้ายจะมาเป็นกู่
อ้ายช่างมีความฮู้ ติดตั๋วท่องหา
จะมาเป็นผัวมันต้องมีปัญญา
ถ้าบ่มีวิชาเอากั๋นตึงบ่ได้
หากมานพจะมาเป็นผัว
ตั๋วจะต้องมีความฮู้เอาไว้
หน้าต๋ากะหลวก ถ้าใจ่ก๋านบ่ได้
แล้วไผจะเอาอ้ายมานอนด้วย
น้อยมานพจะมาเป็นกู่
ถ้าบ่หมีความฮู้ ข้าเจ้าตึงบ่เอาเป็นผัว
สมัยเดี๋ยวอี่บัวตองตึงกั๋ว
บ่มีความฮู้ติดตั๋วเอากั๋นตึงบ่ได
ป่อแม่ข้าเจ้าตึงบ่เปิงใจ๋
กั๋วเอาของไปชุบบ่ตาย กั๋วอับ กั๋วอาย
ไปแผวปี่ แผวน้อง จิ่มแหล่นอ
|
มีมานพ ที่จุมาเป็นกู่
พี่มีความรู้บ้างไหม
ที่จะมาเป็นสามีต้องมีความรู้ปัญญา
ถ้าไม่มีวิชาแต่งงานกันไม่ได้
หากมานพจะมาเป็นสามี
พี่ต้องมีความรู้เอาไว้
หน้าตาก็ฉลาด ถ้าใช้ทำงานไม่ได้
แล้วใครจะเอาพี่มานอนด้วย
พี่มานพจะมาเป็นคู่
ถ้าไม่มีความรู้น้องก็ไม่เอา มาเป็นสาม
สมัยปัจจุบันนี้น้องบัวตองกลัว
ไม่มีความรู้ติดตัวแต่งงานกันไม่ได้
พ่อแม่ของน้องจึงไม่พอใจ
กลัวว่าจะเอากันไปใช้เปล่าๆ
กลัวจะอายไปถึงพี่น้อง
้ |
เพลงปฏิพากย์ภาคอีสาน ได้แก่ กลอนทำนองต่างๆ เช่น ลำเต้ยโขง ลำเต้ยพม่า ลำเต้ยโนนตาล
ลำกลอน ลำแพน
เพลงปฏิพากย์ภาคใต้ ได้แก่ เพลงบอก เพลงนา รวมถึงเพลงประกอบการแสดง เช่น หนังตะลุง มโนราห์
เพลงบอกนิยมเล่นกันในระหว่างสงกรานต์ เป็นการบอกชาวบ้านให้ทราบว่าได้ถึงวันขึ้นปีใหม่แล้ว คณะ
เพลงจะออกไปร้องตามบ้านต่างๆเมื่อถึงบ้านใด เจ้าของบ้านจะยกหมากพลูเหล้ายาปลาปิ้งมาเลี้ยงตาม
ธรรมเนียม วิธีเล่น มีดนตรีประกอบคือฉิ่ง มีแม่เพลงขึ้นกลอนและลุกคู่รับต่อมาเพลงบอกใช้ร้องในโอกาส
อื่นๆได้คือ ร้องกล่อมขวัญหรือสรรเสริญความดีของบุคคล จึงมีเครื่องดนตรีเพิ่มขึ้นอีกคือ ขลุ่ย ปี่ ทับ กรับ ส่วนการรับของลุกคู่นั้นเมื่อแม่เพลงร้องจบวรรคแรก ลูกคู่ก็รับครั้งหนึ่ง โดยรับว่า”ว่าเอว่าเห่”แม่เพลงอาจ
จะว่าวรรคแรกซ้ำอีกก็ได้ ถ้าว่าซ้ำลูกคู่จะรับว่า”ว่าทอยจ้า ฉ้าเอ”แล้วลูกคู่รับวรรคสุดท้ายอีก
ครั้งหนึ่ง
(รุ่ง) |
ปานนี้เปรียบเหมือนกับชูชก
อ้ายเรื่องหัวไม้ขอทาน
เปิดคนที่ขี้ขอ
แล้วตัวมันยิ่งกินยอ
พัทลุงหรือสงขลา
ถ้าปล่อยให้ปานขอก่อน
|
มันแสนสกปรกเหลือประมาณ แล้วใครจะปานกับมัน
ยิ่งคนเขายอว่าสำคัญ
เห็นว่าคนพอใจ
ตลอดมาถึงนคร
แล้วคนอื่นไม่พักไขว่ |
(ปาน) |
จริงแหละรุ่งปานเหมือนชูชก
ครั้งชูชกเข้าไปวอน
ถึงลูกเมียยังไม่แน่
บางทีสิ่งไรที่รัก
|
ตลอดมาถึงนคร
แล้วรุ่งให้ไม่เหลือไหร่
ครั่งพอปานแวะเข้าไป
ใคร่ก็รุ่งต้องให้มา |
|