![]() |
|
momo_ducky@hotmail.com,pla_bubble@hotmail.com
|
[โรคตาแดง]
[โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่] [โรควัณโรค] [โรคไข้เลือดออก] [โรคคอตีบ] [โรคคางทูม] [โรคบาดทะยัก] [โรคบิด] [โรคโปลิโอ] [โรคสมองอักเสบ] [โรคสุกใส] [โรคหัด] [โรคอุจจาระร่วงในเด็ก] [โรคไอกรน] [โรคไวรัสตับอักเสบ เอ] |
โรคไอกรน อาการ อาการเริ่มแรกของโรคไอกรนจะคล้ายกับเป็นไข้หวัดมาก ดังนั้นหากเด็กเป็นโรคนี้จึงมักจะไม่ทราบ คิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา เพราะเด็กจะมีแต่น้ำมูกไหล ไอแห้งๆเท่านั้น พอผ่านไปสัก 7 วัน อาการจะดูดีขึ้นเหลือแต่ไอแห้ง ทำให้ผู้ปกครองสบายใจคิดว่าหาย แต่พอปลายสัปดาห์ที่สองฤทธิ์ของไอกรนเริ่มสำแดงทันทีเด็กจะเริ่มไอติดๆกัน บางทีไอตั้ง 10 ครั้งจึงจะหายใจเข้าสักครั้งหนึ่ง เด็กจะไอมากจนอาเจียนเพราะเสมหะเหนียวมากพอไอหมดชุดแล้ว เด็กจะสูดหายใจเข้าเต็มที่เสียงดัง เด็กจะไอจนหน้าดำหน้าเขียว น้ำตาไหล ลิ้นออกมาจุกปาก บางคนไอจนเลือดออกมาจุกในตาและอาเจียนจนหมดแรงก็มี ช่วงที่ไอจะนานเป็นสัปดาห์ กว่าจะหายก็ร่วมเดือน รายที่เป็นมากๆจะไอถึง 3 เดือน ที่เรียกว่าไอ 100 วัน หรือไอ 3 วัน โรคนี้ร้ายแรงมากถ้าเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เด็กจะอาเจียน อ่อนเพลียมาก อาจเป็นปอดบวมหรือชักไปเลยก็ได้แต่อย่าปล่อยไปเล่นกับเด็กคนอื่น เพราะโรคนี้แพร่เชื้อได้ง่าย หากเด็กอาเจียนควรให้รับประทานอาหารมื้อละน้อยๆ เมื่อเด็กไอมากจนอาเจียนเสมหะออกมาจะสบายขึ้นและรับประทานได้พอสมควรเด็กบ่นปวดท้องเนื่องจากไอมากจนเจ็บชายโครง อาจใช้พันรอบท้องเพื่อลดการสะเทือนเวลาไอ การป้องกัน ควรพาเด็กไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรนตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด |
คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่ ตั้งแต่วันจันทร์ที่
7 ตุลาคม 2545 Copyright(c) 2002 Miss Warunee,Miss Watcharaporn. All rights reserved. |