1. โรคเอดส์ค้นพบเมื่อใด
โรคเอดส์เป็นโรคที่ค้นพบ
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 ในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยพบว่าผู้ป่วยรายแรกที่พบนี้มีอาการป่วยที่แตกต่างจากผู้ป่วยอื่นๆและมีภูมิคุ้มกันปกติ
และต่อมาได้พบผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการเช่นเดียวกับผู้ป่วยรายนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
2. โรคเอดส์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศใด
มีหลักฐานรายงานว่าโรคเอดส์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา
ซึ่งเชื่อกันว่ามีผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2520
แล้วมีการแพร่กระจายไปยังเกาะไฮติซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของทวีปอเมริกา
ต่อมามีการแพร่ระบาดขึ้นในทวีปอเมริกา ฝรั่งเศส
อังกฤษ เยอรมนี และประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย
เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก
แล้วจึงมีการแพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก
รวมทั้งประเทศไทยจนถึงปัจจุบันมีรายงานว่ามีมากกว่า
163 ประเทศที่พบโรคเอดส์ในประเทศของตนแล้ว
3. โรคเอดส์พบครั้งแรกในประเทศใด
โรคเอดส์พบครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา
ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ.2524)
โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯได้รับรายงานจากนครลอสแองเจลิส
รัฐแคลิฟอร์เนีย ว่ามีชายหนุ่มรักร่วมเพศ
5 คนป่วยเป็นปอดบวมจากเชื้อแปลกๆ ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า
Pneumocystis Carinii Pneumonia ภายในอีก 1 เดือนต่อมา
มีรายงานจากนิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนียว่ามีชายรักร่วมเพศอีก
26 ราย ป่วยเป็นโรคมะเร็ง Kaposi’s Sarcoma
ซึ่งตามปกติเป็นในคนอายุมากหรือคนที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายเสียไป
และยังมีผู้ป่วยอีกหลายราย
เป็นโรคปอดบวม และติดเชื้อชนิดฉวยโอกาส
ชายหนุ่มที่ป่วยทุกรายไม่มีรายใดที่มีโรคร้ายแรงประจำตัวมาก่อน
และไม่มีรายใดที่เคยได้รับยาประเภทกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
และทุกรายเมื่อได้รับการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการพบว่าการทำงานของเซลล์ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับภูมิต้านทานโรคเสียไปไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ
และในที่สุดผู้ป่วยเหล่านี้ก็เสียชีวิตเพราะระบบภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง
หลังจากนั้นการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยที่ในขณะนั้นยังไม่มีใครทราบสาเหตุว่าเกิดจากเชื้อชนิดใด
4. ใครเป็นผู้ค้นพบเชื้อเอดส์เป็นคนแรก
ผู้ค้นพบเชื้อเอดส์เป็นคนแรกเป็นชาวฝรั่งเศสชื่อ
Luc Montagnier และคณะโดยสามารถแยกเชื้อได้จากต่อมน้ำเหลืองของคนไข้ที่เป็นรักร่วมเพศ
และป่วยเป็นโรคเอดส์ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ.2526)
และให้ชื่อไวรัสนี้ว่า Lymphadenopathy
Associated Virus หรือ (LAV)และในปี พ.ศ.2527
Robert Gallo และคณะแพทย์จากสหรัฐอเมริกา
ก็สามารถแยกเชื้อเอดส์ได้จากเม็ดเลือดขาว ของคนไข้โรคเอดส์และตั้งชื่อว่า
Human T-cell Lymphotropic Virus Type lll(HTLV-lll)
ต่อมาพบว่า LAV และ HTLY-lll เป็นไวรัสตัวเดียวกัน
แต่มีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันไป จึงได้ตกลงตั้งชื่อเรียกเป็นสากลว่า
Human Immunodeficiency Virus (HIV)
5. เชื้อเอดส์มาจากไหน
เชื้อเอดส์หรือ
HIV เป็นไวรัสในกลุ่ม Retrovirus สันนิษฐานว่าเป็นไวรัสที่มีการพัฒนาตัวเองมาจากไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเฉพาะในสัตว์เท่านั้น
และไม่สามารถทำให้เกิดโรคในคนได้ แต่ต่อมามีการพัฒนาขึ้น
และค่อยๆ ทำให้เกิดโรคในสัตว์ที่ใกล้เคียงกับคน
เช่น ลิง โดยเฉพาะลิงเขียว
ในทวีปแอฟริกา (Afarican green monkey) หลังจากนั้นไวรัสเหล่านี้อาจติดมาในคน
ในระยะแรกเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดมะเร็งของต่อมน้ำเหลืองในคน
ต่อมาจึงเกิดเป็นโรคเอดส์ที่เป็นเฉพาะในคนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่มาของเชื้อเอดส์อย่างชัดเจน
|