1. หญิงที่ติดเชื้อเอดส์
ควรปล่อยให้ตั้งครรภ์หรืไม่
ไม่ควร
เพราะการตั้งครรภ์อาจกระตุ้นให้หญิงที่ติดเชื้อนั้นมีอาการป่วยของโรคเอดส์เร็วขึ้น
นอกจากนี้หากทารกคลอกออกมาก็มีโอกาสได้รับเชื้อจากแม่ได้
2. อัตราเสี่ยงของทารกที่เกิดจากมารดาที่มีเชื้อเอดส์มีมากน้อยเพียงใด
หญิงที่มีเชื้อเอดส์อยู่ในร่างกายสามารถแพร่เชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้ประมาณ20-40?
ของทารกที่เกิดมา และทารกที่ติดเชื้อจะมีอาการเป็นโรคเอดส์
และตายในเวลาประมาณ 2-5ปี
1. ผู้ติดเชื้อเอดส์แล้วจะมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยได้หรือไม่
ได้
แต่เนื่องจากเชื้อเอดส์ออกมากับน้ำหลั่งจากอวัยวะเพศ
เช่น น้ำจากช่องคลอด น้ำอสุจิ จึงทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อเอดส์ไปยังคู่นอนได้
ผู้ที่ติดเชื้อควรทราบความจริง มีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์และแนวทางการปฏิบัติตัวที่จะไม่ให้เชื้อเอดส์แพร่ไปสู่ผู้อื่นได้เช่น
ใช้ถุงยางอนามัยในการร่วมเพศโดยแน่ใจว่าถุงยางนั้นไม่ชำรุด
และปฏิบัติตามหลักการ “การมีเพศสัมพันธ์อย่าง
ปลอดภัย” เป็นต้น
2. การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
(Safe Sex) ต้องทำอย่างไรบ้าง
การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe
Sex) คือการร่วมเพศกับเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันจนสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีที่ปลอดภัย
ไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเอดส์ ซึ่งจะปฏิบัติดังนี้คือ
- พยายามเล้าโลมด้วยการกอดจูบลูบคลำตามร่างกาย
- จูบตามร่างกายได้
รวมทั้งจูบตามริมฝีปากได้ แต่ห้ามจูบอย่างดูดดื่มระวังอย่าให้น้ำลายเข้าไปในปากฝ่ายตรงข้ามในปริมาณที่มากพอ
รวมทั้งห้ามใช้ลิ้นสอดเข้าไปด้วย
- ห้ามสอดอวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอด
ทวารหนัก หรือปากของฝ่ายตรงข้าม
- พยายามใช้ส่วนของร่างกาย
(ซึ่งไม่มีแผล) ที่เป็นร่องเช่นร่องขา ร่องแขน
ร่องหน้าอก เป็นที่ถูไถของอวัยวะเพศแทน
- พยายามใช้มือช่วยในการสำเร็จความใคร่ของฝ่ายตรงข้าม
- ห้ามกลืน
หรือระวังอย่าให้น้ำอสุจิหรือน้ำจากช่องคลอดเข้าปาก
เข้าตาเป็นอันขาด
- อาจใช้เครื่องมือร่วมเพศ
เช่นท่อนยาง เครื่องนวด ช่วยในการสำเร็จความใคร่แทนอวัยวะจริง
- ห้ามกัดหรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดบาดแผล
ขณะร่วมเพศ
3. การร่วมเพศทางปากกับผู้ที่มีเชื้อเอดส์จะมีโอกาสติดเชื้อหรือไม่
การร่วมเพศทางปากไม่ว่าจะเป็นการอม
ดูด หรือเลียอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม หากมีน้ำจากช่องคลอด
น้ำอสุจิ หรือเลือด เข้าไปในปากจะมีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้
เพราะเชื้ออาจแทรกตัวผ่านเยื่อบุในปากเข้าไป
หรือบางครั้งอาจมีบาดแผลเล็กๆ ขึ้นในปากโดยไม่รู้ตัว
4. ชายที่มีเชื้อเอดส์ร่วมเพศโดยไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอด
ฝ่ายหญิงจะติดเชื้อหรือไม่
โดยปกติแล้วทั้งหญิงและชายเมื่อมีอารมณ์ทางเพศก็จะมีการหลั่งน้ำหล่อลื่นของทั้งสองฝ่ายออกมา
เพื่อให้ลดความเจ็บปวดจากการเสียดสี ดังนั้นเมื่อชายหญิง
มีเพศสัมพันธ์กันถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะไม่หลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอดก็ตาม
แต่เมื่อมีน้ำหล่อลื่นหลั่งออกมาแล้วก็สามารถถ่ายทอดเชื้อเอดส์ได้
5. การจูบปากกันมีโอกาสติดเชื้อเอดส์หรือไม่
การจูบปากกันตามธรรมดาทั่วไปโอกาสที่เชื้อผ่านเข้าเยื่อบุปากของอีกฝ่ายหนึ่งเกือบไม่มีเลย
แต่ควรระวังการจูบปากอย่างดูดดื่มรุนแรงกับคนที่เราไม่แน่ใจว่ามีเชื้อเอดส์หรือไม่ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าการจูบปากแบบธรรมดาจะทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้
6. หลังการร่วมเพศ
หากทำความสะอาดทันที จะมีโอกาสติดเชื้อเอดส์หรือไม่
มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้
เพราะการติดเชื้อเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นได้โดยสัมผัสกับเชื้อในน้ำอสุจิ
หรือน้ำในช่องคลอดของผู้ที่มีเชื้ออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นเชื้อเอดส์จะเข้าไปในกระแสเลือดโดยผ่านเข้าไปทางเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่มหรือแผลเล็กๆ
ในทวารหนัก อวัยวะเพศหญิง อวัยวะเพศชาย หรือปาก
7. ผู้ที่เป็นกามโรคมีโอกาสสูงต่อการติดเชื้อเอดส์หรือไม่
มีโอกาสมาก
เพราะทั้งกามโรคและโรคเอดส์นั้นติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
โดยเฉพาะเป็นกามโรคที่มีแผลที่อวัยวะเพศด้วย
เช่น แผลริมอ่อน แผลริมแข็ง โรคเริมยิ่งมีโอกาสที่จะติดเอดส์ได้มากกว่าธรรมดา
จึงควรหลีกเลี่ยงการสำส่อนทางเพศ หรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
|