แหล่งอารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย
จากหลักฐานการค้นพบร่องรอยและหลักฐานต่างๆในบริเวณหลายแห่งของประเทศไทย
ในระยะเวลาที่ได้ผ่านมาแล้วนั้น ทำให้สามารถสรุปแหล่งอารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนประเทศไทยออกเป็นยุคต่างๆโดยคร่าวๆดังนี้
1.
ยุคหินเก่า
หลักฐานเครื่องมือทำด้วยหินกะเทาะ ซึ่งดร.แวน ฮิกเกอเรน
( Van Hockren ) ชางฮอลันดา พบที่ฝั่งแม่น้ำแควน้อย
อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้สันนิษฐานได้ว่า เคยมีมนุษย์ยุคหินเก่าอาศัยอยู่ในบริเวณแถบนั้นมาแล้ว
แต่เนื่องจากยังไม่มีผู้ขุดพบโครงกระดูกของมนุษย์ยุคหินเก่าในดินแดนประเทศไทย
จึงไม่อาจทราบแน่นอนว่ามนุษย์ในยุคนั้นมีรูปร่างเป็นอย่างไร
การสันนิษฐานต้องอาศัยการเทียบเคียงกับรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ยุคหินเก่าที่มีผู้ขุดพบในประเทศจีน
และที่เกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนักโบราณคดี ได้ตั้งชื่อว่า
มนุษย์ปักกิ่ง และมนุษย์ชวา ตามลำดับ ถ้าหากถือเอารูปร่างหน้าตาของมนุษย์ตามนั้น
มนุษย์ยุคหินเก่าในประเทศไทยในระยะแรกคงเริ่มต้นและมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์วานร
ต่อมาจึงค่อยๆมีวิวัฒนาการไปตามลำดับจนเป็นมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
สำหรับความเป็นอยู่นั้น มนุษย์ยุคหินเก่า ชอบอาศัยอยู่ตามถ้ำ
และยังชีพอยู่ด้วยการล่าสัตว์ เก็บผลหมากรากไม้เป็นอาหารประทังชีวิต
2.
ยุคหินกลาง
คณะนักวิชาการไทย - เดนมาร์ก ขุดค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์ยุคหินกลางด้ที่
ถ้ำพระ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ พ.ศ.2505
นอกจากนี้ยังพบเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผาอีกหลายแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี
ราชบุรี ลพบุรี แม่ฮ่องสอน และเชียงราย ทำให้สามารถทราบเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ยุคหินกลางในประเทศไทยได้มากขึ้น
ศาสตราจารย์ชิน อยู่ดี นักโบราณคดีที่มีชื่อเลียงของไทยคนหนึ่ง
ได้ให้ข้อสันนิษฐานว่า จากการสำรวจค้นคว้าที่ตีพิมพ์ในหนังสือ
"สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย" ว่า มนุษย์ในยุคหินกลางมีจำนวนมากกว่ามนุษย์ยุคหินเก่า
และยังมีเครื่องมือเครื่องใช้ดีกว่ายุคหินเก่า กล่าวคือ
นอกจากมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหินแล้วยังรู่จักนำเปลือกหอยมาใช้
รู้จักทำภาชนะเครื่องปั้นดินเผาเป็นหม้อ จาน ชาม หม้อน้ำ
เป็นต้น เศษเครื่องปั้นดินเผาที่พบที่ถ้ำผี อำเภอเมือง
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปรากฏว่ามีลักษณะผิวเรียบเป็นมัน นับเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3.
ยุคหินใหม่ มีการสำรวจพบโครงกระดูกมนุษย์และเครื่องมือเครื่องใช้ในยุคหินในที่ต่างๆ
หลายจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านเก่า อำเภอเมือง
จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นหลักฐานที่สำคัญมาก โครงกระดูกที่พบแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ในยุคนี้มีความสูงอยู่ประมาณ
150 เซนติเมตร - 167 เซนติเมตร ส่วนเครื่องมือที่มำเคึรื่องมือด้วยกระดูก
เป็นปลายหอก ลูกศร และเข็ม เครื่องมือที่มำด้วยดินเผา
เป็นหม้อ จาน กระสุนกลมดินเผา เป็นต้นจากหลักฐานเครื่องมือเครื่องใช้ที่พบ
ทำให้สันนิษฐานได้ว่ามนุษย์ยุคหินใหม่กระจายอยู่หลายแห่งมนดินแดนประเทศไทย
บางพวกยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำ แต่บางพวกก็ออกมาอาศัยอยู่นอกถ้ำรู้จักทำเครื่องประดับตกแต่งร่างกายเช่น
เอาเปลือหอยมาทำลูกปัด กำไลหิน กำไลกระดุก เป็นต้น เมื่อมีคนตายญาติจะนำเอาศพไปฝังในหลุมสี่เหลี่ยมผืนผ้าไ
ไม่ใส่โลง จัดศพให้นอนอยู่ในท่านอนหงาย แขนทั้งสองวางแนบกับร่าง
จัดการขุดพบโครงกระดูกหลายๆโครงพบว่ามีการฝังศพโดยหันศีรษะไปทางทิศต่างๆแต่ไม่พบโครงกระดูกใดหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก
โดยวางเครื่องปั้นดินเผาไว้เหนือศีรษะที่ปลายเท้า และที่เหนือเข่า
ใส่สิ่งของเครื่องใช้เครื่องประดับลงไปในหลุมด้วย
|