ยุคโลหะบรอนต์ 3500ปี ก่อนค.ศ.

         จากที่กล่าวมาจึงเห็นได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีทางการดำเนินชีวิตของมนุษยจากสังคมร่อนเรพเนจร มาเป็นสังคมที่ก้าวหน้า เริ่มต้นด้วยการที่มนุษย์ทำเกษตรกรรมเมื่อสังคมเกษตรกรรมมีพื้นฐานแน่นหนา ผ่านกาลเวลาไปหลายพันปีแล้วมนุษย์ก็เริ่มต้นค้นพบสิ่งอื่นมาส่งเสริมสร้างสังคมของตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก  ในที่สุดการรู้จักใช้โลหะก็ได้เปลี่ยนแปลงโลกของมนุษย์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเปลียนแปลงครั้งยิ่งใหญ่พอๆกับการทำเกษตรกรรม ได้ปฏิวัติเปลี่ยนโฉมหน้าของสังคมมนุษย์โดยสิ้นเชิงมาแล้วอย่างไร การรู้จักใช้โลหะก็ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมมนุษย์ให้ก้าวหน้าไปอีกก้าวหนึ่งเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของสังคมจากการใช้โลหะแทนหิน ในช่วงแรกๆเป็นการเปลียนแปลงอย่างช้าๆ และไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักจะมีการใช้เป็นครั้งคราวและกระจัดกระจายไม่แพร่หลายหมายความว่าเป็นเวลานานที่การใช้โลหะยังไม่มีความสำคัญใดๆในสังคมเกษตรกรรมยุคนั้น

           ประมาณ 7000-6000ปี ก่อน ค.ศ. ในบริเวณอนาโตเรียชึ่งเป็นดินแดนเชื่อมต่ออยู่กับวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์ประชากรในบริเวณนั้นเริ่มรู้จักการเอาทองแดงทำสิ่งของต่างๆแร่ทองแดงในขณะนั้นหาได้ง่ายซึ่งนอกจากอยู่บริเวณอนาโตเรียแล้ว ยังอยู่มากในบริเวณต่างๆเช่น บนเกาะไซปรัส บนบางเกาะของหมู่เกาะในทะเลอีเจียน รวมทั้งในสเปน อิตาลี และฮังการีจนถึงเกาะอังกฤษ ทองแดงตามธรรมชาติจะเกาะตัวอยู่กับหิน และพบว่ามีอยู่มากในภูเขาตะวันออกกลางขณะนั้น การนำเอาหินมาสร้างเป็นเครื่องมือหินและสิ่งของอาจทำให้ผู้ค้นพบทองแดงที่ปะปนอยู่กับหินเช่นนั้นและอาจเป็นไปได้ว่าแต่ละบริเวณที่ค้นพบทองแดงอย่างง่ายๆดังกล่าว ผู้คนในบริเวณนั้นๆต่างก็รุ้วิธีนำมาใช้เป็นยสิ่งของต่างๆแทนหินโดยไม่ต้องได้รับการช่วยเหลือจากภายนอกท้องถิ่นนักประวัติศาสตร์พบหลักฐานโดยแน่ชัดในเมโสโปเตเมีย ดินแดนระหว่างแม่นำไทกรีสซึ่งอยู่ใน"วงศ์โค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์"ในตะวันออกกลาง เป็นดินแดนเริ่มใช้ทองสัมฤทธิ์เมื่อปี 3500ก่อนค.ศ. นักประวัติศาสตร์ทั่วโลกจึงยอมรับว่าปี 3500ก่อนค.ศ. เป็นปีเริ่มต้นยุคโลหะบรอนด์ของโลก นอกจากนั้นยังค้นพบอีกว่าจีนรู้จักใช้โลหะภายหลังเมโสโปเตเมีย 1000ปี แต่จากหลักฐานที่ค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าสิ่งของที่ทำจากโลหะบรอนด์ที่ค้นพบในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีอายุเก่าแก่มากที่สุดของโลกกล่าวคือมีอายุประมาณ 3600ก่อนค.ศ.

            เมื่อเอาหลักฐานเป็นดินแดนเริ่มต้นทำเกษตรกรรมที่ค้นพบในเอเชียอาตเนย์ว่าเป็นดินแดนที่เริ่มต้นทำเกษตรกรรมแห่งแรกของโลกคือเริ่มต้นเมื่อ 10000ปีก่อนค.ศ.และถือว่า 10000ปีก่อนค.ศ.คือยุคเริ่มต้นอารยธรรมขั้นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งของมนุษย์ชาติมารวมกัน การค้นพบว่ายุคโลหะบรอนด์เริ่มต้นแห่งแรกของโลกที่เอเชียอาคเนย์ คือพบในบริเวณประเทศไทย จึงทำให้มองเห็นว่า จุดเริ่มต้นของอารยธรรมโลกเกิดขึ้นที่เอเชียอาคเนย์ ไม่ใช้วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์ในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดีประวัติความเป็นมาของจุดกำเนิดอารยธรรมของเอเชียอาคเนย์ในฐานะจุดเริ่มต้นของอารยธรรมแห่งแรกของโลก ถึงแม้จะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากนักวิชาการทั่วโลกในปัจจุบันก็ตาม แต่การวิจัยเรื่องนี้ก็ยังคับแคบไม่ก้าวหน้าและยังรอคอยตอนสำคัญอีกมากมายซึ่งต่างกับเรื่องราวในบริเวณ"วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์"ซึ่งถึงแม้จะเริ่มต้นทั้งยุคเกษตรกรรมและยุคโลหะบรอนด์ช้ากว่าเอเชียอาคเนย์ถึง 1000 ปีก็ตาม แต่ได้รับการวิจัยค้นคว้าได้หลักฐานสำคัญเป็นเรื่องราวมากมาย ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในบทต่อๆไป ดังนั้นักศึกษาจึงให้ความสำคัญ"วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์"มากกว่าเอเชียอาคเนย์ว่ามีฐานะเป็นจุดกำเนิดอารยธรรมแห่งแรกของโลก