เกษตรกรรม

 

 
Gallery 
สายพันธุ์มนุษย์ 
วัฒนธรรมมนุษย์ 
เผ่าพันธุ์มนุษย์ 
ยุคของมนุษย์ 
แบ่งยุคประวัติศาสตร์ 
ปรา-หวัด 
Links 
Contact me 

 

 african_home_2.gifยุคเกษตรกรรมเริ่มต้น

        สิ่งแรกที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่มนุษย์ในสมัยนั้นสร้างหรือกำหนดขึ้น แต่โฮโมซาเปียนหรือมนุษย์ในยุคปัจจุบันดำเนินชีวิตเป็นนักร่อนเร่ตามฝูงสัตว์พร้อมอาวุธอยู่ในมือสังหารสัตว์ขนาดใหญ่เป็นอาหารอยู่เป็นระยะเวลายาวนานประมาณ4,000 ปี แต่สภาพของการดำเนินชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจัดอยู่ในประเภทอนารยชนอยู่ตลอดช่วงแรกแต่ผลจากการตามหาฝูงสัตว์เรื่อยไปในช่วงเวลาอันยาวนานเช่นนั้นเองที่ทำให้มนุษย์เดินทางไปทั่วโลก  

        พอถึงช่วง 20,000 ปีก่อนค.ศ. ปรากฏว่าดินแดนในเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก(โอเซียเนีย) อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ตลอดจนหมู่เกาะต่างๆในทะเลแคริบเปียน มีมนุษย์เดินทางเข้าไปอาศัยอยู่โดยทั่วไป อย่างไรก็ดีสภาพของสังคมเร่ร่อนพเนจรนั้น สภาพของมนุษย์อยู่ในระดับอนารยชนคงรวมตัวกันเป็นเผ่าขนาดเล็กๆกระจายอยู่ทั่วๆไปและพร้อมที่จะเดินทางต่อไปอีก เมื่อเกิดภาวะขาดแคลนอาหารขึ้นในดินแดนที่ตนเดินทางมาถึง การเคลื่อนย้ายของชนเผ่ากลุ่มต่างๆและการทำสงครามแย่งชิงดินแดน สำหรับการเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่เป็นเหตุการณืเกิดขึ้นตลอดเวลา ยังไม่มีนครรัฐหรือประเทศชาติ เพราะการดำรงชีวิตเช่นนั้นไม่เอื้ออำนวยให้เกิดองค์กรทางการเมืองที่ซับซ้อนเหมือนอย่างที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน จนกว่าจะถึงเวลาที่มนุษย์เริ่มต้นตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นที่เป็นทางเมื่อนั้นมนุษย์จึงได้สร้างบ้านเมืองด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดขึ้นเป็นประเทศชาติและผลจากการที่มนุษย์ตั้งถิ่นฐานรวมตัวกันอยู่ในเมืองเป็นประเทศชาติจึงเกิดระบอบการปกครองหลายรูปแบบ เช่น การเกิดจารีตประเพณี การศึกษา กฎหมาย และศาสนาที่ซับซ้อน เพื่อให้มนุษย์ในสังคมนั้นอยูร่วมกันได้อย่างปกติสุข ชีวิตจึงเริ่มมีความเป็นอารยะภายหลังที่มนุษย์ได้ละทิ้งป่าแล้วมาใช้ชีวิตแบบสังคมคนในเมือง

        ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในการตั้งถิ่นฐานก็คือมนุษย์ได้ค้นพบการทำเกษตรกรรม รู้จักการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นฐานเศรษฐกิของตน ลงแรงสร้างเกษตรกรรมขึ้นด้วยมือของตนเอง แทนที่จะร่อนเร่ออกไปหาสิ่งเหล่านั้นเหมือนอย่างแต่ก่อน จึงพบว่าการทำเกษตรกรรมให้ผลผลิตสูงพอที่จะเลี้ยงประชากรทั่วประเทศ ดังนั้นการคุ้มกันดินแดนที่ตนตั้งถิ่นฐานอยู่ การสร้างกฎหมาย การจัดระบบการปกครองการสร้างบ้านเมืองให้สวยงาม และสิ่งอื่นๆจึงทยอยเกิดตามมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการสร้างสังคมเกษตรกรรมขึ้นมาทั้งสิ้น และเนื่องจากสังคมขั้นพื้นฐานทางเกษตรกรรมนี้เอง มนุษย์ก็ได้พัฒนาให้เป็นสังคมอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

        ดังนั้น สิ่งที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ คือการที่มนุษย์ค้นพบการทำเกษตรกรรม ซึ่งมีจุดเริ่มต้นประมาณ 10,000 ปีก่อนค.ศ. หลังจากนั้นมนุษย์จึงเริ่มต้นสร้างอารยธรรมแล้วได้เกิดความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์แล้ว การเริ่มสร้างสังคมเกษตรกรรมจนกลายเป็นสังคมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มนุษย์ใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นสังคมเกษตรกรรมจึงถือเป็นพื้นฐานรองรับรากฐานความก้าวหน้าทั้งมวลของมนุษย์

        ผลจากการวิจัยของนักวิชาการในปัจจุบันได้รวบรวมแสดงให้เห็นว่า บริเวณที่ทำการเพาะปลูกเก่าแก่แห่งแรกที่สุดของโลก เริ่มต้นเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนค.ศ. ในบริเวณเอเชียอาคเนย์ พืชที่ใช้เพาะปลูกบริเวณนี้ตั้งแต่ยุคนั้น เช่น ข้าวฟ่าง ข้าวเจ้า ยังคงเป็นอาหารที่สำคัญของผู้คนที่เอเชียอาคเนย์มาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นเมื่อเอเชียอาคเนย์เริ่มต้นสังคมเกษตรกรรมก่อน ประชากรในภูมิภาคนี้จึงก้าวหน้ากว่าบริเวณส่วนอื่นๆของโลกในสมัยประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว

        การเริ่มต้นสังคมเกษตรกรรมมีช่วงเวลาห่างกันมากในภูมิภาคต่างๆของโลก ในขณะที่เอเชียอาคเนย์เริ่มต้น เมื่อ 10,000 ปีก่อนค.ศ.แต่ประชากรในอเมริกากลางเพิ่งเรียนรู้การปลูกมันฝรั่งหวาน และข้าวโพดหลังจากชาวเอเชียอาคเนย์อีกประมาณ 8,000 ปี ต่อมาทำเกษตรกรรมในบริเวณตะวันออกไกลเริ่มต้นประมาณ 9,000-6,000 ปีก่อนค.ศ.

 [เกษรตกรรมกับวงโค้ง]

 

  

คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่

ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2545
www.thaigoodview.com
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail :
thaigoodview@hotmail.com
ICQ : 82032264

Copyright(c) 2001 MissSarinthip wasoontaratorn All rights reserved.