บริเวณวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์
บริเวณ"วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์"(Fertile
Crescent)ปัจจุบันคือที่ตั้งของประเทศอิรัค ซีเรีย เลบานอน
จอร์แดน อิสราเอล และอียิปต์ ดินแดนในบริเวณดังกล่างนี้มีควาอุดนสมบูณ์ขึ้นมาเพราะมีแม่น้ำใหญ่
4 สาย คือแม่น้ำไทรกรีส แม่น้ำยูเฟรติส แม่น้ำจอร์แดนและแม่น้ำไนล์พัดพาเอาปุ๋ยธรรมชาติมาทับถมไว้ตามบริเวณชายฝั่ง
ซึ่งเป็นบริเวณที่ราบทอดตัวเป็นแนวโค้งคลุมพื้นที่หลายประเทศแต่เมื่อเลยบริเวณวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์ออกไปแล้ว
กลายเป็นท้องทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลโอบรอบวงโค้งแห่งนี้ไว้ทุกทิศทางยกเว้นบริเวณติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งนี้เองเป็นจุดเกิดอารายธรรมแห่งแรกของโลก
กสิกรกลุ่มแรกเมืองแรกของโลก การประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อใช้เขียนหนังสือเป็นครั้งแรกของมนุษย์
และการประดิษฐ์สิ่งสวยงามไว้บนโลหะเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นมาในดินแดนวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งนี้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว
แม่น้ำไหลมาจากภูเขาทุกๆปีเป็นเวลาช้านานหลายพันปี
เมื่อฝนตกลงมาและหิมะบนภูเขาละลายจึงมีลำธารเล็กๆส่งน้ำไปให้แม่น้ำสายใหญ่พลังงานของน้ำได้พาโคลนตมตามไปด้วยเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์
และเมื่อน้ำขึ้นท่วมท้นฝั่งจึงพาเอาโคลนตมมาทับถมไว้ในบริเวณรอบๆริมฝั่งเมื่อน้ำลดลงไปจึงทิ้งโคลนตมซึ่งอุดมไปด้วยปุ๋ยไว้ที่นั่น
เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายพันปีพื้นที่จะกว้างใหญ่ขึ้นรุกไล่บริเวณท้องทะเลให้ถอยห่างออกไป
โคลนตมที่น้ำพัดพามาถมไว้มีความอุดมสมบูรณ์มาก
ดินแดนในบริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ การมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยธรรมชาติและมีภูมิอากาศร้อนทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมในการประกอบเกษตรกรรมดีที่สุด
ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่มนุษย์ซึ่งร่อนเร่พเนจรมาเป็นเวลานานได้ค้นพบว่าบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานสร้างสังคมเกษตรขึ้นมาเป็นครั้งแรก
เมื่อมนุษย์รู้จักการเกษตรกรรมคือการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์
แทนที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการล่าสัตว์เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษได้ปฎิบัติก่อนหน้านั้นทำให้มีชีวิตที่สุขสบายกว่าแต่ก่อนและมีเวลาดหลือพอที่จะสามารถทำกิจกรรมอื่นๆได้อีกมากมาย
ดังนั้น ด้วยเหตุผลข้อนี้เองมนุษย์ในยุคนั้นจึงไก้มีเวลาที่จะคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆขึ้นมาพยายามหาวัสดุใหม่มาใช้แทนวัสดุเก่านอกจากนี้ยังมีเวลาเหลือที่จะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวของพวกเขาพยายามเข้าใจปรากฎการณ์ต่างๆของธรรมชาติ
เช่น เรื่องราวของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ฤดูกาล ฝนตก แดดออก
น้ำท่วม ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฟ้าแลบ ชีวิตและความตาย เรื่องราวเหล่านี้เองได้กลายมาเป็นจุดกำเนิดของงานทางด้านศิลปกรรม
ศิลปวิทยาการและศาสนาให้กับสังคมเกษตรกรรม
เมือกาลเวลาผ่านไปและในไม่ช้าเมื่ออารยธรรมของสังคมเกษตรกรรมได้พัฒนาและก้าวหน้าขึ้นมนุษย์ก็เริ่มต้นค้นหาวิธีต่างๆที่จะสามารถบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้เป็นหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์ทางการค้า
ชีวิตประจำวัน สี่งที่มนุษย์ในสังคมได้ทำการแนะนำ รวมทั้งเรื่องการค้นพบแนวความคิดและแนวความเชื่อทางศาสนาเพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของสังคมที่เติบโตขึ้น
และเพื่อส่งผ่านให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรุ้ดังนั้นสังคมเกษตรกรรม
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมได้สมบูรณ์แบบกว่าสังคมยุคเร่ร่อนพเนจรที่มนุษย์ปฎิบัติมานานแล้งประมาณ40,000ปี
ก่อนหน้านั้น นับตั้งแต่โฮโมซาเปียนหรือมนุษย์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นมา
ทางบริเวณด้านตะวันตกของ
วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไนล์ซึ่งมีจุดกำเนิดจากภูเขาและทะเลสาบในแอฟริกากลางไหลเป็นระยะทางมากกว่า
4,000ไมล์ ลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถ้าหากว่าไม่มีแม่น้ำไนล์สายนี้
ดินแดนทั้งหมดของประเทศอียิปต์คงจะกลายสภาพเป็นทะเลทรายไปนานแล้ว
แต่เพราะว่าแม่น้ำไนล์มีประชากรดำรงชีวิตอยู่เป็นเกษตรกรและมีชีวิตอารายะอยู่ในอียิปต์นานมากกว่า
5,000 ปีมาแล้ว
แม่น้ำจอร์แดนไหลจากบริเวณเทือกเขาของเลบานอนลงสู่ทะเลมรณะ(Dead
sea) ประชากรในบริเวณลุ่มแม่น้ำสายนี้ได้สร้างสังคมเกษตรกรรม
และได้สร้างเมืองเจริโก้ (Jericho) ขึ้นนับว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลก
บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งติดต่อกับวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์
ผู้คนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มีชื่อเรียกว่าชาวฟินีเซียซึ่งได้สร้างเมืองไทร์
(Tyre) และเมืองไซดอน (Sidon) ขึ้นมาตรงริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทำให้ชาวฟินิเซียกลายเป็นนักการค้า และนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคเก่า
ยุคแรกๆของมนุษย์ที่เริ่มตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง
ทางบริเวณตะวันออกของบริเวณวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์ในบริเวณที่ราบระหว่างแม่น้ำยูเฟรติสและไทกริส
ซึ่งเป็นแม่น้ำ 2 สายใหญ่ที่ไหลลงสู่อ่าวเปอร์เซีย (Persian
Gulf) นับเป็นจุดที่มีความสำคัญมากที่สุดของการตั้งถิ่นฐานและอารยธรรม
ดินแดนระหว่างแม่น้ำไทกริส -ยูเฟรติสเรียกว่า"เมโสโปเตเมีย"(Meso
Potamia) และในบริเวณดังกล่าวนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
กล่าวคือ ประมาณ 4,000 ปีก่อนค.ศ.หรือประมาณเกือบ 6,000
ปีมาแล้ว มีประชากรกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์เรียกว่าชาวสุเมเรีย
(Sumerian) ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่ราบระหว่างแม่น้ำทั้งสอง
ผลจากการประกอบการเกษตรกรรมบนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของชาวสุเมเรียทำให้ร่ำรวยและมีอำนาจสร้างเมืองใหญ่โตและประดิษฐ์อักษรใช้เป็นครั้งแรกของโลก
ความเจริญรุ่งเรืองของชาวสุเมเรียนานกว่า 2,000 ปี อารยธรรมของสุเมเรียถูกทำลายไป
ในสมัยที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่รวมทั้งอังกฤษยังคงใช้ชีวิตร่อนเร่ล่าสัตว์
|