ภายในบริเวณบ้าน

 บ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ประกอบด้วยเรือนไทยและศาลาไทยในเนื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่ เมือเราก้าวพ้นประตูบ้านซึ่งทำด้วยไม้สีดำอมน้ำตาล จะแลเห็นศาลาไทยหลังใหญ่หน้าบ้าน  

          สถานที่แรกคือ ศาลาไทยหลังใหญ่หน้าบ้าน แยกออกไปจากกลุ่มเรือนที่เป็นที่อยุ่อาศัยสร้างขึ้นเมื่อ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้แล้วประมาณ 10 ปี บริเวณโถงของศาลาไทย ทำด้วยไม้สักยกพื้นสูงประมาณ 50 ซ.ม. ปูด้วยไม้สักตลอดโถงด้านหน้าของบริเวณโถงตั้งโต๊ะหมู่มีรูปพานตั้งบูชา รูปนี้คือรูปตั้งโกศในงานศพ ด้านซ้ายและด้านขวาของห้องโถงเป้นตู้กระจกใส่หัวโขน มีโต๊ะวางของสำหรับไหว้ครู ซึ่งที่แลเห็นคือ กล้วยน้ำว้า และเครื่องบูชา

         หัวโขนที่อยู่ในตู้กระจกนั้นใช้สำหรับเล่นและแสดงจริง ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยุ่จะบูชาครูทุกวันพฤหัสบดี เพราะถือว่าเป็นวันครู ด้านบนเพดาน สิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งแปลกและสีสันตัดกับบรรยากาศที่สง่างามของศาลาไทยก็คือ ภาพวาดสีอะครีลิก ซึ่งมีสีสดจัดจ้าน ซึ่งวาดโดยกลุ่มศิลปินหน้าพระลาน นำทีมโดยนาวาเอก จัตวา กลิ่น สุนทร ภาพวาดแสดงถึงสวรรค์ในจินตนาการของศิลปินแต่ละท่าน ซึ่งจะมีภาพวาดทั้งหมด 32 ภาพ บริเวณรอบๆ ของบริเวณโถงจะบุด้วยกระเบื้องโมเสก สีนำตาลอ่อน มีชุดรับแขกวางตัดมุมฉาก 2 ชุด ลักษณะโต๊ะรับแขกจะมีลักษณะรูปทรงของจีน ส่วนชุดรับแขกกลางห้อง ค่อนข้างมีความประณีตอ่อนช้อยรับกับบรรยากาศของศาลาทรงไทยซึ่งเป็นโต๊ะรับแขกทำจากประเทศเวียดนาม

        บริเวณด้านซ้ายของห้องโถงจะมีนิทรรศการเกี่ยวกับ ประวัติและผลงานของท่าน ซึ่งรวบรวมและจัดทำโดยกรมศิลปากร และด้านริมซ้ายสุดของลานห้องโถง มีศาลเจ้าเป็นที่ตั้งของเทวรูปซึ่งได้มาจากประเทศจีน สมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีและเปิดสัมพันธ์กับประเทศจีน คอมมิวนิสต์ จำนวน 3 องค์มีเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้ากวนอู หน้าศาลจะมีตู้ใส่พระคัมภีร์ 2 ใบสมัยอยุธยาตอนปลายซึ่งมีความสำคัญคือ ใบแรกมีลวดลายในลักษณะล้อเลียนการเมือง เพราะรูปตัวละครที่ล้อเลียนจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นฝรั่งที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทยในสมัยนั้น ส่วนตู้ใส่คัมภีร์อีกใบหนึ่งเป็นผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตซึ่งลวดลายของตู้จะเป็นลวดลายที่ได้รับอิทธิพลจากทางประเทศตะวันตก