เอาล่ะ ...
เรื่องจริงนี้อาจจะยากเกินที่จะรับได้ เตรียม พร้อมหรือยัง ? เราจะบอกคุณว่า
... ไมีมีปลาชื่อซาร์ดีนอยู่ในโลกนี้ !! คำว่า
"ซาร์ดีน"เป็นเเพียงชื่อที่ใช้เรียกว่าปลาตัวเล็กตัวน้อยที่ถูกบรรจุอยู่ในกระป๋องเท่านั้น คุณรู้มั๊ย
... !? เค้ามีการตั้งมาตราฐานของปลาซาร์ดีนกันด้วยนะ
โดยคณะกรรมการที่มีชื่อเรียกว่า Codex Alimentarius Commission
เพื่อให้เกิดผลปฏิบัติ คณะกรรมการจะรับฟังความเห็นจากทุกประเทศ
ว่าต้องการให้ปลาพัธุ์ใดบ้างที่จะให้เป็นปลาซาร์ดีนได้ ตัวอย่างเช่น
ในประเทศ นอเวย์จะใช้ปลาสแปรตและเฮอร์วิงตัวเล็กตวน้อย อเมริกาใต้จะใช้ปลาแองโชวี
ส่วนฝรั่งเศสและโปรตุเกสจะใช้ปลาฟิลเชิร์ด ปลาซาร์ดีนได้รับความนิยมแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่
1 ยอดขายทะลุเเป้าในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ ( ในทศวรรษที่ 1930 )
เนื่องจากมีรสชาติอร่อย ราคาถูกเท่าที่เงินน้อยนิดจะซื้อได้ หลังจากทศวรรษที่
1940
คนอเมริกันพอจะมีเงินติดกระเป๋าจึง เป็นผลให้ยอดขายของปลาซาร์ดีนลดลงจนแทบจะไปไม่รอด ในเมื่อปลาซาร์ดีนเป็นอาหารราคาถูก
( ก่อนหน้าที่จะนำมาบรรจุกระป๋องให้คนบริ โภค
ปลาเล็กปลาน้อยเป็นได้เพียงแค่ปลาป่นที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ )
อุตสาหกรรมปลาซาร์ดีนจึง ต้องพยายามจับปลาให้ได้มากที่สุด
และใช้เวลาบรรจุกระป๋องให้สั้นที่สุด เมื่อเรือกลับเข้าเทียบท่า
กระบวนการบรรจุกระป๋องเกือบจะเครื่องจักรทั้งหมด
เครื่องจักรจะตัดหัวและหางเพื่อให้ได้ขนาดเดียวกัน
เครื่องสูญญากาศจะดูดเครื่องในปลาทิ้ง
และเครื่องจักรอีกส่วนจะบรรจุปลาลงในกระป๋อง ในแรกเริ่มนั้น
ผู้ผลิตปลากระป๋องจะทรมานผู้บริโภคโดยการใช้ฝาบัดกรี
การจะเปิดกระป๋องนั้นจะต้องใช้กุญแจเปิดกระป๋องและนักกล้ามกล้ามโตในการเปิดกระป๋องในแต่ละที
และเรามักจะต้องบริโภคโลหิตของผู้เปิดเป็นประจำ นานแสนนานหลังจากนั้น "
วงแหวนดึงเปิด " ก็ได้ถูกกำเนิดขึ้น
เป็นเหมือนดังสิ่งที่สวรรค์ส่งมาให้นักเปิบเลยเชียวล่ะ ภายในกระป๋องนั้น
เมื่อบรรจุปลาเต็มกระป๋องแล้ว
ก็ต้องฉีดไอน้ำร้อนจัดเข้าไปใน กระป๋องเพื่อไล่อากาศและทำให้โปรตีนปลาจับตัวเป็นก้อน
จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้ก็เพื่อจะสกัดน้ำในตัวปลาตามธรรมชาติให้หมดไป
เมื่อกระป๋องผ่านด่านไอน้ำ กระป๋องจะร้อนราว150
องศา เมื่อเคลื่อนมาตามสายพานกระป๋องจะเอียงรินน้ำจากตัวปลาทิ้งไป
จากนั้นก็จะเติมเครื่องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน น้ำเกลือ และน้ำซอส
หากไม่มีการเติมเครื่องปรุงรสเข้าไป มนุษย์เราก็คงไม่สามารถฝืนทนกระเดือกลงไปได้
( เนื้อปลาไม่มีรสเหมือนปลาทูน่า ) กระป๋องจะผ่านสายพาน
ผ่านเครื่องติดผนึก ผ่านเครื่องล้างเศษปลาที่ติดข้างกระป๋อง
แล้วเข้าเครื่องอบความร้อนฆ่าเชื้อ เศษหัวปลาหางปลาเราก็ไม่ได้ทิ้งสูญเปล่า
เราจะนำไปทำปลาป่นเป็นอาหารปลา น้ำมันปลา
และน้ำปลา
เอาล่ะ ...
จำไว้ให้ดีนะ
ว่าไม่มีปลาซาร์ดีนแหวกว่ายอยู่บนโลกนี้
|