สายใย

Home 
our  story 
มนุษย์ 
นิวเคลียร์ 
ทรัพยากร 
ระบบนิเวศน์ 
Contact me 

  ความสัมพันธ์แบบสายใยอาหาร

               ในระบบนิเวศหนึ่งๆ  จะมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิต  และมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน  ที่สำคัญคือการเป็นอาหาร  ทำให้มีการถ่ายทอดพลังงานในโมเลกุลของอาหารต่อเนื่องเป็นลำดับจากพืช   ซึ่งเป็นผู้ผลิต ( Producer )   สู่ผู้บริโภค  ( Herbivore )   ผู้บริโภคสัตว์ ( Carnivore )   กลุ่มผู้บริโภคทั้งพืชและสัตว์ ( Omnivore )   และผู้ย่อยสลายอินทรียสาร ( Decomposer )  ตามลำดับในห่วงโซ่อาหาร ( Food  Chain ) ในระบบนิเวศธรรมชาติระบบหนึ่งๆ  จะมีห่วงโซ่อาหารสัมพันธ์กันอย่างซับซ้อนหลายห่วงโซ่  เป็นสายใยอาหาร   ( Food  Web )   

        ระหว่างสิ่งมีชีวิตในสายใยอาหารในแผนภาพจะเห็นว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นการแก่งแย่งกันระหว่างสิ่งมีชีวิตแต่ละสปีซีส์ คือ เป็นเหยื่อกับผู้ล่าเหยื่อ   ( Prey – Predator  Interaction )   ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์และอีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์

        การอาศัยอยู่ร่วมกันตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต จะมีความสัมพันธ์กันอย่างซับซ้อนและมหัศจรรย์ยิ่งดังตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างตัววต่อไทรกับไทร   ดังแผนภาพ

        

ภาพ  เหยื่อ  กับ  ผู้ล่า

        ไลเคนส์เป็นสิ่งมีชีวิต  2  ชนิด  คือ รากับสาหร่ายสีเขียว   การอยู่ร่วมกันนี้ทั้งสาหร่ายและราต่างได้รับประโยชน์ กล่าวคือ  สาหร่ายสร้างอาหารเองได้แต่ต้องอาศัยความชื้นจากรา   ราก็ได้อาศัยอาหารที่สาหร่ายสร้างขึ้นและให้ความชื้นแก่สาหร่าย   ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต  2  ชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกันชั่วคราวหรือตลอดไป  และต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์  เรียกว่า   ภาวะทีพึ่งพากัน ( Mutualism )   
        แบคทีเรีย  พวกไรโซเบียม ( Rhizobium )  ที่อาศัยอยู่ที่ปมรากพืชตระกูลถั่ว   โดยแบคทีเรียจับไนโตรเจนในอากาศ  แล้วเปลี่ยนเป็นสารประกอบไนเตรตที่พืชนำไปใช้   ส่วนแบคทีเรียก็ได้พลังงานจากการสลายสารอาหารที่มีอยู่ในรากพืช   นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างซีแอนีโมนีกับปูเสฉวน  มดดำกับเพลี้ยก็เป็นความสัมพันธ์แบบพึ่งพา
        

          ฝ่ายหนึ่งได้รับประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว   แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เสียประโยชน์แต่อย่างใด   เช่น  เหาฉลามเกาะอยู่บนปลาฉลาม
          พืชที่เจริญบนต้นไม้ใหญ่ เช่น  เฟิร์น   พลูด่าง   กล้วยไม้   เถาวัลย์  ที่เลื้อยพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่เฉพาะบริเวณเปลือกของลำต้น    เพื่ออาศัยความชื้นและแร่ธาตุบางอย่างจากเปลือกต้นไม้เท่านั้น   โดยต้นไม้ใหญ่ไม่เสียประโยชน์เรียกความสัมพันธ์เช่นนี้ว่า
 ภาวะอ้างอิง  ( Commensalism )   
         ฝ่ายหนึ่งได้รับประโยชน์และอีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์   คือความสัมพันธ์ที่เรียกว่า  ภาวะปรสิต ( Parasitism )  เช่น   เห็บที่อาศัยที่ผิวหนังของสุนัข   สุนัขเป็นผู้ถูกอาศัย  ( Host )  ถูกเห็บสุนัขดูดเลือดจึงเป็นฝ่ายเสียประโยชน์  ส่วนเห็บซึ่งเป็นปรสิต ( Parasite )  ได้รับประโยชน์คือได้อาหารจากเลือดของสุนัข
        ภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างๆ  ยังเป็นที่อาศัยของปรสิตหลายชนิด  เช่น  พยาธิใบไม้ในตับ  พยาธิไส้เดือน  พยาธิตัวตืดในทางเดินอาหาร  เป็นต้น

         กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ย่อยสลายอินทรียสาร  ได้แก่  แบคทีเรีย  เห็ด  รา  จะสร้างสารออกมาย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต   บางส่วนของสารที่ย่อยแล้วจะถูกดูดกลับไปใช้ในการดำรงชีวิต  ด้วยกระบวนการดังกล่าวทำให้ซากสิ่งมีชีวิตเน่าเปื่อยย่อยสลายเป็นอนินทรียสารกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม  ความสัมพันธ์แบบนี้เรียกว่า   ภาวะมีการย่อยสลาย ( Saprophytism ) 


    

 


จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 07 ตุลาคม 2545

thaigoodview.com Version 17.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com

 Copyright(c) 2002 Miss Wirasa Chaileamwong and Miss Sureeporn Bumroongeiampanya. All rights reserved.