Chapter 4

 

 

 

Home 
Purpose 
Scope 
Chapter 1 
Chapter 2 
Chapter 3 
Chapter 4 
Chapter 5 
Q&A 
Test  No 1. 
Test  No 2. 
Contact 

 

 

การสื่อสารข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีรูปแบบที่เรียกว่า ดาต้าแกรม กล่าวคือใช้การสื่อสารแบบแพ็กเก็ต การรับส่งจึงรับส่งด้วยข้อมูลเป็นชุด ๆ เรียกว่า ไอพีแพ็กเก็ต

เมื่อเป็นการสื่อสารแบบดาต้าแกรม เหมือนการส่งจดหมาย ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันเวลา หรือความเร็วในการรับส่ง ข้อมูลที่รับส่งจะถึงเมื่อไรก็ได้ หรือจะสูญหายระหว่างทางก็ได้ แต่จะมีวิธีตรวจสอบว่าได้รับหรือยัง หากยังจะมีการเรียกร้องให้ส่งซ้ำ

 

 

 

 

             การสื่อสารด้วยอินเทอร์เน็ตจึงผ่านเครือข่ายต่าง ๆ มากมาย โดยใช้หมายเลขไอพีเป็นตัวกำหนดแอดเดรสปลายทาง ข้อมูลทุกแพ็กเก็ตจะมีการกำกับแอดเดรสต้นทางและปลายทาง

             ปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตจึงอยู่ที่ความเร็วของการเรียกข้อมูล ปัญหาความล่าช้านี้มาจากช่องสื่อสารมีขนาดเล็กเกินไป เมื่อมีปริมาณข้อมูลมากก็จะเกิดความล่าช้า และหากแพ็กเก็ตใดไม่ได้รับหรือรับส่งช้า ก็จะมีการเรียกร้องให้ส่งใหม่ ผลลัพธ์ยิ่งทำให้มีปริมาณข้อมูลที่จะส่งมากขึ้น

             ประจวบกับช่องทางสื่อสารไปต่างประเทศมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตของทุกประเทศ จะต้องไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกันที่สหรัฐอเมริกา เส้นทางสื่อสารไปสหรัฐอเมริกาจึงเป็นเส้นทางที่คับคั่ง อีกทั้ง การคิดราคาจะเป็นแบบเต็มวงจร กล่าวคือ วงจรที่ไปสหรัฐอเมริกาที่ใช้เป็นอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องเสียราคาเต็ม แต่หากเป็นวงจรโทรศัพท์ จะเสียค่าใช้จ่ายครึ่งเดียว เพราะทางสหรัฐอเมริกาต้องจ่ายด้วยครึ่งหนึ่ง เพราะระบบ สื่อสารเป็นแบบสองทาง

             เมื่อเป็นเช่นนี้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจึงมีราคาสูง ช่องสื่อสารขนาด 8 เมกะบิต ที่ทบวงใช้ติดต่อไปยังสหรัฐอเมริกาต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงปีละกว่าห้าสิบล้านบาท

             การเพิ่มประสิทธิภาพบริการอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้งานได้ด้วยความเร็วสูง และบริหารช่องสื่อสารให้คุ้มค่ายิ่ง จึงเป็นเรื่องของการสร้างบัฟเฟอร์ข้อมูล หรือที่เรียกว่า แคช หรือ พรอกซี่

             หลักการของการสร้างบัฟเฟอร์ คือ การนำข้อมูลที่ใช้กันบ่อย ๆ และอยู่ต่างประเทศหรืออยู่นอก องค์การ มาเก็บไว้ในองค์กร เพื่อให้สมาชิกขององค์กรเรียกใช้ได้จ่ายรวดเร็ว และลดการใช้ช่องสื่อสารไปต่างประเทศที่มีราคาแพง เพื่อให้ใช้ช่องสื่อสารได้เต็มประสิทธิภาพ

       

             หลักการของพรอกซี่หรือแคช คือการรับเป็นหน้าที่ติดต่อเรียกข้อมูลให้ เช่น ถ้าผู้ใช้จะติดต่อเว็บ ปกติการติดต่อจะต้องใช้พอร์ตการติดต่อที่ชัดเจน เช่น พอร์ตหมายเลข 80 สำหรับติดต่อเว็บด้วย http ระบบพร๊อกซี่จะติดต่อให้แทน โดยให้ผู้ใช้กำหนดพอร์ตติดต่อกับพร๊อกซี่เป็นพอร์ต 8080 ก่อน เครื่องพร๊อกซี่หรือแคชจะดูว่ามีข้อมูลอยู่ในบัฟเฟอร์ของตนเองหรือไม่ หากมีก็จะส่งข้อมูลให้ทันที หากไม่มีจะเรียกต่อไปปลายทางให้แทน เมื่อได้ข้อมูลจะนำมาเก็บไว้ในบัฟเฟอร์และส่งต่อให้ผู้ใช้ ดังนั้นถ้ามีผู้ใช้รายอื่นเรียกข้อมูลเดียวกันนี้และมีอยู่แล้วก็จะส่งให้ได้ทันที

 

             การสร้างประสิทธิภาพของระบบแคช จึงขึ้นอยู่กับจำนวนข้อมูลที่พบบนบัฟเฟอร์ซึ่งเราเรียกว่า hit อัตราการ hit วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น ถ้ามี hit rate 40 เปอร์เซ็นต์ ก็หมายถึงการเรียกร้อยครั้งจะได้ข้อมูลในแคช 40 ครั้ง ปริมาณข้อมูลในแคชนี้ทำให้เสมือนลดปริมาณการเรียกจากภายนอก และผู้ใช้ก็สามารถเรียกได้ข้อมูลเร็ว

 

 

 ที่มา  http://www.ku.ac.th/magazine_online/proxy.html

 

 

 

คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่

ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2545
www.thaigoodview.com
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail :
thaigoodview@hotmail.com
ICQ : 82032264

Copyright(c) 2002 Uttaradit School. All rights reserved.
j.suporn@chaiyo.com