กรมทรัพย์ชี้คลื่นยักษ์ปะทะภูเก็ตไม่ใช่ "สึนามิ" ยันเกาะไม่เอียงแน่นอน

      อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ชี้ผลกระทบแผ่นดินไหวที่ภูเก็ตไม่ถึงขั้นเรียกว่า "สึนามิ" แต่เป็นคลื่นระดับสูงผิดปกติ ยันเหตุที่เกิดขึ้นไม่ทำให้เกาะภูเก็ตเอียงหรือทรุดตัว แต่จะตรวจสอบสภาพภูมิประเทศว่ามีจุดใดมีรอยแยกหรือเปลี่ยนแปลงบ้างภายหลังสถานการณ์ยุติ
       
       นายสมศักดิ์ โพธิสัตย์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี แถลงข่าวกรณีแผ่นดินไหวที่กระทบถึงประเทศไทยทำให้หลายจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคใต้ของไทยรู้สึกได้ว่า ปรากฏการณ์คลื่นยักษ์ที่เกิดที่ภูเก็ตยังไม่อาจเรียกได้ว่า “สึนามิ” เพราะความรุนแรงยังไม่มากพอที่จะเป็นสึนามิ แต่ถือได้ว่าเป็นคลื่นสูงผิดปกติเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนวิตกสอบถามมายังกรมทรัพยากรธรนีมาก เรื่องเกาะภูเก็ตจะเอียงหรือไม่ ยืนยันได้ว่าไม่เอียง และไม่ทรุดตัว แต่ภาวะน้ำบางจุดแห้ง บางจุดขึ้นสูงเพราะเป็นขั้นตอนในการรวมตัวของคลื่นบริเวณที่น้ำแห้ง คือบริเวณท้องคลื่น เมื่อคลื่นสงบแล้วทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะนี้ระดับน้ำในจุดที่แห้งก็กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
       
       "เกาะภูเก็ตรับรองได้เกาะไม่เอียงแน่นอน แต่จุดหนึ่งน้ำลดลง จุดหนึ่งน้ำขึ้น เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปตรวจว่าเกาะเอียงหรือไม่เอียงเด็ดขาด แต่เราต้องไปตรวจสภาพว่ามีภูมิประเทศตรงไหนบ้างที่เกิดรอยแตกรอยแยก หรือเปลี่ยนแปลงหลังเกิดเหตุนี้ เราส่งเจ้าหน้าที่ลงไปแล้ว ส่วนระดับน้ำที่แห้งไปในบางจุดตอนนี้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว" นายสมศักดิ์ กล่าว
       
       อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวอีกว่า ตามทฤษฎีเมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแล้วและเกิดคลื่นยักษ์ไปแล้ว ระยะนี้จะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก เพราะเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง 2 จุด คือ ที่หัวเกาะสุมาตรา และประเทศพม่า และมีอาฟเตอร์ช็อกไปแล้วจึงมีการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ไปแล้ว ซึ่งพบด้วยว่า ที่หมู่เกาะนิโคบา ซึ่งเป็นจุดรอยตะเข็บของเปลือกโลกมีการเกิดแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องตลอดเมื่อคืนนี้ จึงคาดว่าหลังคลื่นทะเลสงบเป็นปกติแล้วจะไม่มีคลื่นขนาดใหญ่ตามมาอีก
       
       อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ยังอธิบายถึงการเกิดคลื่นยักษ์ว่า ตามหลักวิชาการเกิดแผ่นดินไหวจะเกิดคลื่นใต้น้ำจากแรงคลื่นแผ่นดินไหว ก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์ใน 1 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยยอดคลื่นจะสูงเป็นครึ่งหนึ่งของความลึกของท้องคลื่น สถานการณ์ที่ภูเก็ตเมื่อเช้านี้ยังไม่ถือว่าเป็นสึนามิ เพราะคลื่นกระทบฝั่งก่อนที่จะก่อตัวสูงมาก หากเป็นสึนามิจะต้องส่งผลกระทบเสียหายในรัศมีวงกว้างห่างจากฝั่งเกิน 1 กิโลเมตรขึ้นไป แต่ที่ภูเก็ตยังไม่ถึงขั้นนั้น เพียงแต่เป็นคลื่น สำหรับความเสียหายที่น่าเป็นห่วงคือ ฝั่งพื้นที่ที่ระดับน้ำสูง ซึ่งได้รับรายงานว่าคลื่นสูงที่ภูเก็ตส่งผลกระทบถึงขนาดความสูงของตึก 3 ชั้น ประชาชนที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลอันดามันโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมทั้งหมู่เกาะในทะเลอันดามันให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
       
       อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวอีกว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้นับได้ว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่าจบแล้ว แต่ถ้ามีครั้งต่อไปในระดับสเกลเท่านี้หรือมากกว่านี้ก็อาจเกิดคลื่นระดับสูงได้อีก ส่วนจะเกิดอีกเมื่อใดไม่สามารถบอกได้ บอกได้แต่ว่าไม่เกิดใน 1-2 วันนี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังคลื่นระดับสูงจะมีคลื่นเป็นระลอกๆ จึงมีผลกระทบเรื่องน้ำท่วมตามมา สำหรับพื้นที่ภาคเหนือถึงแถบตะวันตกติดกับชายแดนพม่า เป็นพื้นที่ที่กรมทรัพยากรธรณีประกาศเป็นบริเวณเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวอยู่แล้ว รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีสภาพพื้นดินอ่อน ซึ่งได้ประสานกรมโยธาธิการไปแล้วว่า การออกแบบก่อสร้างอาคารต่างๆ ควรมีการคำนวณเผื่อเรื่องการป้องกันแผ่นดินไหวไว้ด้วย