ตราประจำรัชกาลต่าง ๆ

 

Homeคำขวัญท่องเที่ยวประเทศไทยโลกของเรา

kapook_su@thaimail.com

พระมหากษัตริย์ไทย 
ตราประจำรัชกาลต่าง ๆ 
ประวัติศาสตร์ไทย 
เมืองในประวัติศาสตร์ 
ชื่อเดิมของวัดต่าง ๆ 
ประเทศไทยของเรา1 
ประเทศไทยของเรา2 
ตราประจำกระทรวง 

 

   ตราประจำองค์รัชกาลต่าง ๆ ของไทย 

 

       

      ตราประจำองค์พระมหากษัตริย์ หรือที่เรียกว่า พระราชสัญจกรนั้น ใช้สำหรับประทับในเอสารสำคัญอันแสดงถึง
พระราชอำนาจในการปกครองแผ่นดิน หรือเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงเป็นพระประมุขของชาติไทย ตราประจำพระองค์
ของรัชกาลต่าง ๆ มีดังนี้คือ

       รัชกาลที่ 1 “มหาอุณาโลม” เป็นตรางา ลักษณะกลมรูปปทุมอุณาโลม มีอักขระ “อุ” อยู่ตรงกลาง (“อุ” มีลักษณะ
เป็นม้วนกลมคล้ายลักษณะความหมายของพระนามเดิมว่า “ด้วง”) ตรามหาอุณาโลมนี้ หมายถึงตาที่สามของ
พระอิศวร ซึ่งถือเป็นปฐมฤกษ์ในการตั้งพระบรมราชจักรีวงศ์

       รัชกาลที่ 2 “ครุฑจับนาค” เป็นตรางา ลักษณะกลม รูปครุฑจับนาค เนื่องจากพระนามเดิมคือ “ฉิม” ซึ่งเป็นที่อยู่
ของพญาครุฑ

       รัชกาลที่ 3 “มหาปราสาท” เป็นตรางา ลักษณะกลม รูปปราสาท เนื่องจากพระนามเดิมคือ “ทับ” ซึ่งหมายถึงที่อยู่หรือเรือน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสัญจกรเป็นรูปปราสาท

       รัชกาลที่ 4 “พระมหาพิชัยมงกุฎ” เป็นตรางา ลักษณะกลมรีรูปพระมหามงกุฎ (ตรมพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ามงกุฎ)
อยู่ในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ มีฉัตรปริวาร 2 ข้าง มีพานทอง 2 ชั้น วางพระแว่นสุริยกานต์ หรือเพชรข้างหนึ่ง
(พระแว่นสุริยกานต์ หรือเพชร หมายถึง พระฉายา เมื่อทรงผนวชว่า วชิรญาน) อีกข้างหนึ่ง วางสมุดตำรา (หมายถึง
ทรงศึกษาเชี่ยวชาญในทางอักษรศาสตร์ และดาราศาสตร์)

       รัชกาลที่ 5 “พระจุลมงกุฎ หรือพระเกี้ยว” เป็นตรางา ลักษณะกลมรี กว้าง 5.5 ซม. ยาว 6.8 ซม. มีรูปพระเกี้ยว
ยอดมีรัศมีประดิษฐานบนพานทอง 2 ชั้น (หมายถึงพระเกี้ยวเจ้าฟ้าในคราวโสกัณฑ์) เคียงด้วยฉัตรปริวาร 2 ข้าง
ที่ริมขอบทั้ง 2 ข้าง มีพานทอง 2 ชั้น วางพระแว่นสุริยกานต์ หรือเพชรข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่ง วางสมุดตำรา
(เป็นการเจริญรอยจำลองพระราชสัญจกร ของรัชกาลที่ 4)

       รัชกาลที่ 6 “มหาวชิราวุธ” เป็นตรางา ลักษณะกลมรี กว้าง 5.5 ซม. ยาว 6.8 ซม. รูปวชิราวุธ มีรัศมีประดิษฐานบนพานทอง 2 ชั้น ตั้งอยู่เหนือตั้ง มีฉัตรปริวาร 2 ข้าง (รูปตรานี้ใช้ตามพระนามของพระองค์)

       ัชกาลที่ 7  “พระไตรศร” เป็นตรางา  ลักษณะกลมรี กว้าง 5.4 ซม. ยาว 6.7 ซม. รูปราวพาดพระแสงศร 3 องค์
คือพระแสงศรพรหมศาสตร์, พระแสงศรอัคนีวาต และพระแสงศรประลัยวาต (เป็นศรของพระพรหม,
พระนารายณ์และของพระอิศวร ซึ่งใช้ตามความหมายของพระนามเดิมคือ “ประชาธิปกศักดิเดชน์” คำว่า “เดชน์”
แปลว่า “ลูกศร”) เบื้องบนมีรูปพระแสงจักรและพระแสงตีคูล อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ มีบังแทรกตั้งอยู่ 2 ข้าง
มีลายกระหนกแทรกอยู่ระหว่างพื้น

       รัชกาลที่ 8   “รูปพระโพธิสัตว์” เป็นตรางา ลักษณะกลมศูนย์กลางกว้าง 7 ซม.  รูปพระโพธิสัตว์ประทับบน
บัลลังก์ดอกบัวห้อยพระบาทขวาเหยียบบัวบาน พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวตูม มีเรือนแก้วด้านหลังแท่นรัศมี มีแท่น
รองรับตั้งฉัตร บริวาร 2 ข้าง (รูปพระโพธิสัตว์นี้เดิมเป็นตราประจำในพระราชวังดุสิต)

        รัชกาลที่ 9 “พระแท่นอัฏทิศ อุทุมพรราชอาสน์” เป็นตรางา ลักษณะรูปไข่ กว้าง 5 ซม. สูง 6.7 ซม. รูป
พระที่นั่งอัฎทิศประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระ “อุ” รอบ ๆ มีรัศมี (วันบรมราชาภิเษกได้เสด็จได้เสด็จ
ประทับที่นั่งอัฎทิศ)

                                      

คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่

ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2545
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail :
webmaster@thaigoodview.com
ICQ : 82032264

Copyright(c) 2002 Supatkul Phakkachok All rights reserved.