ผลของร่างกาย
ขนาดของร่างกาย ปัจจัยที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อร่างกายมีอยู่
2 อย่าง คือ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ทั้งสองอย่างนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
เด็กแต่ละคนเจริญเติบโตได้สมบูรณ์ในขอบเขตที่ธรรมชาติกำหนดมากน้องเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
และสิ่งแวดล้อมที่ว่านั่นคือ อาหารและโภชนาการ ซึ่งมีผลที่สำคัญที่สุดต่อขนาดร่างกาย
พันธุกรรมเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
แต่โภชนาการเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถดัดแลงปรับปรุงตามต้องการได้
ตัวอย่างเช่น
การเจริญเติบโตของเด็กไทยที่โตในไทย กับเด็กไทยที่โตในประเทศสหรัฐอเมริกา
ปรากฏว่า เด็กไทยที่โตในสหรัฐอเมริกาจะมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กไทยในประเทศไทย
เนื่องจากอาหารการกินที่ไม่เหมือนกัน
การมีบุตรและสุขภาพของทารก การกินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการทำให้หญิงมีครรภ์มีอัตราเสี่ยงน้อยลงในการคลอดก่อนกำหนดหรือแท้ง
ทั้งยังช่วยให้มารดามีสุขภาพที่ดีด้วย สำหรับทารกก็มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
โดยเฉพาะสมอง มีการเจริญเติบโตอย่างปกติ และมีภูมิคุ้มกันโรคได้ดี
ความสามารถในการต้านทานโรค ร่างกายของผู้ที่มีโภชนาการที่ดีย่อมมีความสามารถในการต้านทานโรคได้ดีกว่าผู้ที่ขาดโภชนาการที่ดี
เช่น เมื่อร่างกายของผู้ที่มีโภชนาการที่ดีได้รับเชื้อโรค
ก็จะมีการติดเชื่อโรคได้น้อย หรือมีอาการหายป่วยมกกว่าผู้ที่ขาดโภชนาการที่ดี
ความมีอายุยืน และความก้าวหน้าทางสุขาภิบาล ทางการแพทย์
ทางสาธารณสุข และโภชนาการ เป็นปัจจัยที่ช่วยให้คนเรามีอายุยืนขึ้น
ผลทางอารมณ์และสติปัญญา
การกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ
นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังทำให้มีอารมณ์ดี มีความสามารถ
ในการใช้สมองได้ดี
การเจริญเติบโตของสมองและสติปัญญา เด็กวัยก่อนเรียนมากมายในประเทศไทย
มีภาวะบกพร่องในการขาดสารอาหารประเภทโปรตีนและแคลอรี่
มีผลทำให้การเจริญเติบโตของเด็กหยุดชะงัก ทางด้านร่างกายเช่น
มีขนาดตัวเล็กกว่า มีสมองเล็กกว่า ทางด้านจิตใจและสติปัญญาเช่น
มีความเข้าใจช้า ขาดความกระตือรือร้น ขาดความคิดริเริ่ม
ขาดความสัมพันธ์ระหว่างอวัยวะต่างๆเช่น มือและตา
จากการค้นคว้าหลักฐานจากปัญหาที่ว่า
โภชนาการมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง ได้ความว่า การขาดสารอาหารโดยเฉพาะในเด็กตั้งแต่ระยะเดือนท้ายๆของการตั้งครรภ์จนถึงระยะหากเดือนหลังคลอด
มีผลทำให้เซลล์สมองไม่เจริญเติบโตเพราะเซลล์มีการแบ่งตัวน้อยลง
ต้องแก้ไขโดยวิธีเพิ่มอาหารที่มีสารอาหารที่เหมาะสม แต่ต้องแก้ไขในระยะที่สมองกำลังเจริญเติบโต(ระยะอายุ
1-3 ขวบ)อยู่เท่านั้น ถ้าหลังระยะนี้จะแก้ไขไม่ได้ ผู้ที่ควรดูแลเรื่องโภชนาการให้ดีที่สุดคือ
หญิงมีครรภ์ หญิงที่กำลังให้นมบุตร เด็กในระยะแรกคลอด
เด็กในวัยเรียน เพราะเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติพัฒนา
คุณภาพในการทำงาน ผู้ที่ได้รับอาหารย่อมมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ทำให้มีความอดทนในการทำงานมากกว่าผู้ที่ได้รับอาหารที่ไม่ดี
ตัวอย่างเช่น ในโรงเรียน มีนักเรียนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินอาหารเช้า
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้กิน มีผลคือ กลุ่มที่กินอาหารเช้ามีประสิทธิภาพในการเรียนสูงกว่าอีกกลุ่ม
จึงสรุปได้ว่า การขาดอาหารเพียงมื้อเดียวก็มีผลเสีย ซึ่งเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงแก่นักเรียน
เช่นเกิดโรคกระเพาะ เรียนหนังสือได้คะแนนไม่ดี หรือเกิดปัญหาร้ายแรงอื่นๆ
|