อาหารปลาหอมขาว

 

Homeผู้จัดทำประวัติปลาสวยงามพันธุ์ปลาสวยงามโรคของปลาแบบทดสอบชุดที่1แบบทดสอบชุดที่2

 

 

 

การให้อาหารปลา

1.ให้อาหารเพียงพอกับความต้องการในปริมาณที่พอเหมาะ ปลาจะมีความสมบูรณ์แข็งแรงและสุขภาพดี โดยสังเกตได้จากการที่ปลามีความว่องไวและจะแสดงอาการตลอดเวลา แต่นั้นต้องไม่ได้หมายความว่าปล่อยให้ปลาหิวหรืออดอาหาร ดังที่ตามร้านขายปลาสวยงามทำกันโดยจะให้อาหารแก่ปลาเพียงเล็กน้อย นั่นก็เพื่อเหตุผลในด้านเศรษฐกิจของผู้ขาย  ทั้งนี้เพราะปลาที่หิวจะมีความปราดเปรียวกว่าปลาที่กินอาหารเสียจนอิ่มเต็มที่   นอกจากนั้นยังลดปัญหาเศษอาหารที่เหลือจากปลากินอันจะทำให้น้ำขุ่นด้วย ฉะนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้จึงนิยมการให้อาหารแก่ปลาแต่เพียงน้อย ๆ พอมีให้ปลากันตายเท่านั้น ซึ่งที่จริงแล้วเป็นการทรมานสัตว์แบบหนึ่ง
            นอกจากนั้น ความต้องการอาหารของปลามีความแตกต่างกันไปเป็นวันๆ อย่างไรก็ตาม       มีหลักการที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ  เมื่อให้อาหารปลาแล้วปลากินหมดอย่างรวดเร็วในเวลา 5-10 นาที   เมื่อหมดแล้วอาจให้เพิ่มเติมบ้างเพียงเล็กน้อยถือว่าเพียงพอแล้ว
            สำหรับไรแดงที่มีให้ปลากิน ระวังอย่าให้ไรแดงเหลือลอยอยู่ตลอดเวลาเพราะไรแดงส่วนหนึ่งจะตายในเวลาต่อมา  ทำให้หมักหมมอยู่บริเวณก้นบ่อเช่นเดียวกับอาหารสำเร็จรูป
            การให้ลูกน้ำมากเกินไปปลาจะกินไม่หมดเป็นปัญหาในการแย่งออกซิเจนจากปลา ทั้งไรแดงและลูกน้ำรวมถึงหนอนแดงเป็นอาหารธรรมชาติ อาหารสดที่ดีที่สุดรสชาติอร่อยแต่ระบายท้อง    ควรให้น้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง
            อัตราการให้อาหารนั้น ไม่มีหลักเกณฑ์ใด ๆ ที่ให้เหตุผลแน่นอนเสมอไป แต่โดยประมาณ ควรให้ในอัตราอาหาร 5% ต่อน้ำหนักตัวต่อวัน
            ในกรณีปลาอดอาหาร มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อผู้เลี้ยงมีธุระจำเป็นต้องทิ้งบ้านไปหลายวัน     ถ้าไม่เกิน 7 วัน ปลาจะอยู่ได้ จึงควรให้ปลาอดอาหารดีกว่าการฝากผู้อื่นที่ไม่เข้าใจเป็นผู้ให้อาหาร
             เมื่อพบว่าปลามีอาการหิวมากด้วยสาเหตุใดก็ตาม การให้อาหารควรให้ทีละน้อยเว้นระยะให้บ่อยๆ การให้อาหารปลาที่หิวโหยให้อาหารเท่าไรก็กินหมด อาหารจะอัดแน่นอยู่ในท้อง ท้องจะอืด อาจมีผลทำให้ปลาตายได้  แต่ที่ดีที่สุดไม่ควรเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้บ่อย ๆ ปลาควรจะได้รับอาหารทุกวันตามเวลา

2.  การให้อาหารปลา ควรให้เป็นเวลาประจำทุกวัน อย่าให้อาหารตามความสะดวกของผู้เลี้ยง  การให้อาหารผิดเวลาไปมากปลาจะหิว เช่นปลาใหญ่ ปลาเต็มวัยอาจให้อาหาร 2 มื้อ เช้า-เย็น ช่วงที่มีแสงแดดแล้วอ่อนๆ ตอนเย็นก็เช่นเดียวกัน แสงแดดอ่อน4-5โมงเย็นต้องก่อนพระอาทิตย์ตกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง   ถ้ามีอาหารสดให้ควบคู่อาหารสำเร็จรูป ตอนเช้าควรให้อาหารสด เช่น ลูกน้ำ ไรน้ำ ตอนบ่ายค่อยให้อาหารสำเร็จรูป
ถ้าให้อาหารสดมื้อบ่าย อาหารสดส่วนหนึ่งจะเสียหายไป

3.  ในฤดูหนาว อุณหภูมิต่ำ ขบวนการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานลดลง ปลาเคลื่อนไหวน้อยใช้พลังงานน้อย ระบบการย่อยอาหารของปลาก็จะต่ำลงด้วย ดังนั้นไม่ควรให้อาหารมากเพราะปลาต้องการอาหารน้อยจะทำให้มีอาหารเหลือหมักหมมอยู่ในบ่อ ทำให้น้ำเน่าเสียได้ง่าย

4.  หลังฝนตกใหม่ๆ ไม่ควรให้อาหารปลา  เพราะอุณหภูมิในน้ำจะลดลง ออกซิเจนมีน้อย เมื่อปลากินอาหารเข้าไปต้องการออกซิเจนมากขึ้นในการย่อยอาหาร อาจทำให้ปลาน็อคได้เพราะออกซิเจนไม่เพียงพอ แต่ถ้าฝนตกหลังจากการให้อาหารให้จัดการเปลี่ยนน้ำใหม่และใช้เครื่องเพิ่มออกซิเจนช่วย

5.  เมื่อปล่อยปลาลงในที่เลี้ยงใหม่ ปลาอาจไม่กินอาหาร 2-3 วัน เพราะยังไม่คุ้นเคยกับสภาพน้ำ ในระยะนี้อาจเว้นการให้อาหาร แต่ไม่เสมอไป
ให้ลองตรวจสอบด้วยตัวเอง

6.  การให้อาหารปลาต้องเหมาะสมถูกต้องกับวัยและระยะการเจริญเติบโต เช่น
         -   แม่ปลาหอมขาวที่อมไข่และแยกออกมาเลี้ยงต่างหากจะไม่ให้อาหารเพราะปลาจะ ไม่กินอาหาร ทำให้น้ำเน่าเสีย
         -   ปลาหอมขาวที่ถูกคัดเลือกไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ควรขุนด้วยอาหารสด ลูกน้ำ หนอนแดง   ลูกไรจะดีที่สุด  แต่อาหารปลาดุกเล็กก็สามารถทดแทนได้ระดับหนึ่ง  บางฟาร์มจะนำอาหารแห้งสำเร็จรูป แช่น้ำให้พองตัวก่อนให้ปลากิน   เพราะอาหารที่ยังไม่พองตัว ปลาจะกินเข้าไปมากไปพองตัวอัดแน่นในท้องทีหลัง ปลาอาจเกิดอาการท้องอืด แต่อาหารก็จะลดความหอมหวานลงไป

7.  การให้อาหารปลาไม่ว่าจะเป็นอาหารสด มีชีวิต หรืออาหารแห้ง  ควรกระจายให้ทั่วพื้นที่ ปลาจะได้รับอาหารอย่างทั่วถึง

8.  อาหารสำเร็จรูปที่ให้ถ้าเป็นประเภทจมน้ำ ต้องมีวิธีการตรวจสอบและจัดการกับอาหารเหลือก้นบ่อ  ถ้าประเภทอาหารลอยน้ำไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะมองเห็นหลงเหลือช้อนออกได้

9.  อาหารธรรมชาติ หรืออาหารมีชีวิต แหล่งที่มามักจะเป็นที่ที่สกปรก ดังนั้นมีโอกาสนำมาซึ่งปรสิตและโรคต่างๆ(ยกเว้นจากบ่อเพาะ)  ดังนั้นก่อนให้ปลากินควรมีการทำความสะอาด หรือหาวิธีลดความเสี่ยงให้มากที่สุด วิธีการหนึ่งคือล้างอาหารมีชีวิตด้วยสารละลายด่างทับทิม 0.1% กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือเมื่อนำสารละลายในน้ำจะได้น้ำเป็นสีชมพูอ่อน สารละลายด่างทับทิมนี้เมื่อละลายจะให้ออกซิเจนในน้ำ

birds_back.gif

BACK  

จัดทำโดยครูบุญชู  สังวาลวงศ์
โรงเรียนโสภณศิริราษฎร์ อ. วัดเพลง จ.ราชบุรี

Copyright (c) 2004 Mrs.B Sa All rights reserved.

 จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

thaigoodview.com Version 12.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail:
webmaster@thaigoodview.com

Copyright(c) 2004 Mr.Poonsak Sakkatatiyakul. All rights reserved.