|
|
|
การใช้ tense คำว่า tense นี่ในภาษาไทยเราไม่มี เข้าใจว่าคงมีคนเคยให้คำจำกัดความของคำนี้ไว้แล้ว แต่ขอใช้ทับศัพท์ การที่เราไปเข้าใจว่ามันมี แค่ 3 ช่องมันคือการเริ่มต้นที่ผิดทาง และจะทำให้สับสน ต้องขออธิบายดังนี้ มาเริ่มที่ศัพท์กันก่อนคำศัพท์แต่ละคำที่เป็นคำ Verb นั้น ศัพท์บาง ตัวจะผันได้ 3 ช่อง คือ present,past และ past perfect เช่นคำว่า go เป็น present went เป็น past และ gone เป็น past perfect ศัพท์บางตัวก็ไม่ต้องผัน ใช้เติม ed ลงไป เช่น walk,walked,walked ศัพท์เหล่านี้แหละที่พวกเรามักจะเอาไปใช้ผันตาม ลักษณะของงานและเป็นที่รู้จักกันในฐานะ "กริยา 3 ช่อง" เวลาเอาไปใช้งานจริง จะต้องคำนึงถึงการพูดที่คนเราจะใช้ในชีวิตประจำวัน คนเราจะใช้แค่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ได้ มีหลายกรณีที่เราจะต้องใช้ปน ๆ กันไป บางทีมีทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในประโยคเดียวกัน ลองดูประโยคนี้ดู "เมื่อวานนี้ผมเจอสมชาย เขาบอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเขาไปเจอพัลลภ และนัดกันจะไปดูหนังพรุ่งนี้ เขาหวังว่าพัลลภคงจะกินข้าวเสร็จแล้วค่อยมาเจอที่หน้าโรงหนัง เพราะขี้เกียจจะเลี้ยงข้าว" ถ้ามีแค่ 3 tense จะเขียนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ภาษาอังกฤษจึงมี กริยาทั้งหมด 12 ช่อง ไม่ใช่ 3 ช่อง ลองมาดูการกระจาย tense กันว่า 12 ช่องนั้นคืออะไรบ้าง ให้ดูแถวกลางเป็นหลักเพราะแถวกลางคือปัจจุบัน แถวซ้ายเป็นอดีต แถวขวาเป็น อนาคต การกระจายจะสมมติใช้ verb "write" He wrote He writes He will write He was writing He is writing He will be writing He had written He has written He will have written He had been writing He has been writing He will have been writing ถ้าหากท่องและทำความเข้าใจกับทั้ง 12 ช่องนี้ได้ ก็สบายไป กว่า 70% แล้ว
|
จัดทำโดย
นางสาวธารทิพย์
ลภาไพโรจน์
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
Copyright(c) 2006 MissTharnthip
Laphapairoj. All rights reserved.
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2549
thaigoodview.com Version 13.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail:
webmaster@thaigoodview.com