
ต้นไม้ใหญ่
สร้างโดย : นางสาวกัลยารัตน์ เมธีวีรวงศ์ และ เด็กหญิงสุดารัตน์ ภัคโชค
สร้างเมื่อ เสาร์, 10/10/2009 – 12:26
มีผู้อ่าน 116,316 ครั้ง (18/11/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/40469
รางวัลชนะเลิศ ประเภทสื่อออนไลน์ (บุคคล)
โครงการประกวดสื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ (Digital Learning Contest) ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2552
ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ต้นไม้ใหญ่

สวัสดี ผู้ผ่านทางทุกท่านค่ะ สื่อออนไลน์ที่หนู และคุณครูที่ปรึกษาได้จัดทำขึ้นนี้เป็นเรื่องที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเรา อยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ว่ามองไปทางไหนก็คงต้องมีให้เห็นบ้าง สิ่งที่หนูพูดถึงนั้นมีประโยชน์มากหลายต่อทุกๆ ชีวิต ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ นั่นก็คือ ต้นไม้ นั่นเอง


ต้นไม้ คือ พืชชนิดหนึ่ง
ต้นไม้ มีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ราก ลำต้น และใบ
ต้นไม้ สามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่น พืชยืนต้น พืชลัมลุก พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ
ต้นไม้ เป็นส่วนประกอบสำคัญของโลก มีความสำคัญต่อทรัพยากรทางธรรมชาติทั้งหลาย
ต้นไม้ เป็นปัจจัย 4 (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค) ของมนุษย์
ต้นไม้ ถูกศึกษาอยู่ในหลายสาขาวิชา ได้แก่ พฤกษศาสตร์ วนศาสตร์ และชีววิทยา
อ่านเพิ่มเติม...

เนื้อหาประกอบด้วย
- ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในโลก
- ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในไทย
- ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร
- รู้จักกันมากขึ้น
- อดีตกาล
- ความเชื่อ
- เสาะหาความจริง

ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก General Sherman
General Sherman นายพลเชอร์แมน คือ ต้นไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นายพลเชอร์แมนเป็นต้น Giant Sequoia ขึ้นอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Sequoia ในแคลิเฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่า นายพลเชอร์แมนมีอายุประมาณ 2,300-2,700 ปี (ต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก คือ พโระมี-ธยูซ มีอายุประมาณ 4844 ปี) โดยต้นไม้ต้นนี้ได้ชื่อตาม นายพล William Tecumseh Sherman ใ่นช่วงสงครามเหนือใต้ (American Civil War) โดยนักธรรมชาติวิทยาชื่อ James Wolverton ผู้เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายพลเชอร์แมน ตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านนายพล ในปี 1931

SqJvfVfFeHI/AAAAAAAAHew/
-uQjEbmovok/s400/general-sherman-tree.jpg
ในเดือนมกราคม 2006 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อนายพลเชอร์แมน เมื่อกิ่งอันใหญ่ที่สุดของท่านนายพลเชอร์แมนได้หักลงมา ในระหว่างเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นอย่างไร แต่กิ่งที่หักลงมีขนาดใหญ่ และความยาวกว่า 30 เมตรพบรอยปริแตกซึ่งแสดงให้เห็นถึงผิดปกติของสุขภาพของท่านนายพล แต่ท่านนายพลเชอร์แมนก็ยังคงไม่ศูนย์เสียตำแหน่ง ต้นไม้ ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากการคำนวณหาขนาดใช้ เฉพาะเนื้อไม้ในส่วนลำต้นเท่านั้น ไม่รวมกิ่ง รูปกิ่งขนาดใหญ่ที่สุดที่หักลงมาเมื่อเดือนมกราคม 2006 เมื่อเปรียญเทียบกับคนแล้ว กิ่งของท่านนายพลเชอร์แมนมันก็ซุงเราดีๆนั้นเอง
ข้อมูล สัดส่วน ของ ท่านนายพลเชอร์แมน ต้นไม้ ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลจากปี 1997)
ความสูงจากพื้นถึงยอด 83.8 เมตร
เส้นรอบวงที่ฐาน 31.3 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน 11.1 เมตร , 7.7 เมตรที่สูงจากพื้น 1.4 เมตร , 5.3 เมตรที่สูงจากพื้น 18 เมตร , 4.3 ที่สูงจากพื้น 55 เมตร
กิ่งขนาดใหญ่ของต้นอยู่สูงจากพื้น 39.6 เมตร ปริมาตรเนื้อไม้ 1,487 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งทำให้ท่านนายพลเชอร์แมน เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปท่านนายพลเชอร์แมน ก็แบบเต็มจากโคนกันเลย

คุณทราบหรือไม่คะ ว่าต้นไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ ต้นกระบากใหญ่
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เดิมมีชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติต้นกระบากใหญ่” เนื่องจากมีต้นกระบากที่ใหญ่สุดในประเทศไทยเท่าที่สำรวจพบในขณะนี้ โดยมีนายสวาท ณ น่าน ช่างอันดับ 2 สถานีโทรคมนาคม จังหวัดตาก ซึ่งได้รับการบอกเล่าจากชาวเขาเผ่ามูเซอ ว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ประมาณสิบคนโอบอยู่ต้นหนึ่ง และมีสะพานหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อได้ไปสำรวจพบเห็นว่าเป็นสภาพธรรม ชาติที่สวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ จึงได้ทำหนังสือถึงกองอุทยานแห่งชาติ จำนวน 2 ฉบับ ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2519 และวันที่ 6 มกราคม 2520 รายงานถึงลักษณะทางธรรมชาติซึ่งมีความโดดเด่น ได้แก่ ต้นกระบากใหญ่ สะพานหินธรรมชาติ น้ำตกห้วยหอย น้ำตกแม่ย่าป้า มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีสัตว์ป่าที่ชุกชุม

ขึ้นในบริเวณหุบเขาของป่าดงดิบ มีขนาดความโตวัดโดยรอบได้ 16.10 เมตร ความสูง 50 เมตร ต้องใช้คนประมาณ 12 คน จึงจะโอบได้รอบลำต้น อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งเป็นทางเดินลงเขาชันมาก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้สนใจจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรเตรียมน้ำดื่มให้พร้อมสำหรับการเดินลงไปเที่ยวชมและเดินกลับขึ้นมา ระหว่างทางมีป้ายให้ความรู้เรื่องธรรมชาติอยู่เป็นระยะๆ

ความจริงแล้วต้นไม้ใหญ่ในกรุงเทพมหานครมีมากมาย หลังจากที่ได้พยายามค้นคว้ามาหลายที่ ก็ได้ข้อมูลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนที่จะเล่าถึงรายละเอียดต้นไม้ใหญ่ข้างโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนที่หนูเรียนอยู่ หนูขอเสนอข้อมูลจากหนังสือพิมพ์สวัสดีกรุงเทพ ฉบับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 เรื่อง “ตามล่าหา “ปู่ทวด” ต้นไม้ ประวัติศาสตร์มีชีวิตแห่งบางกอก” ดังนี้

กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยมีพื้นที่เพียง 978,263 ไร่ แต่ข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานครระบุว่า เมืองแห่งนี้มีต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 200 ล้านต้นกันเลยทีเดียว
แน่นอนว่า ในเมืองที่มีความเป็นมาเช่นนี้ หากจะกล่าวถึงเฉพาะเรื่องต้นไม้แล้ว ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ยืนต้นอยู่หลากหลายชนิด บางต้นมีอายุหลายร้อยปี มีความเป็นมาบอกได้ว่า “ไม่ธรรมดา”
ย่านใจกลางเมืองหลายแห่งจึงเต็มไปด้วยต้นไม้เก่า อายุหลายร้อยปี เช่น ย่านศูนย์การค้าวรจักร ยังมีต้นไทรโบราณอยู่หลายต้น หรือที่วัดทองสุธาวาส ย่านบางซื่อ ยังมีป่าดงดิบต้นยางโบราณอีกนับร้อยๆ ต้นขึ้นกระจายอยู่ ส่วนบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์บริเวณริมคลองหลอดพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงปลูกต้นตะเคียนทองไว้ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ตลอดฝั่งคลองหลอด เพื่อใช้ในการต่อเรือ ปัจจุบันเหลืออยู่บนถนนอัษฏางค์ริมคลองหลอด หลังวัดราชบพิตร จำนวน 9 ต้น ต้นไม้ที่นี่มีอายุมากเกินสองร้อยปี อาจจะถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นที่ปลูกและมีอายุเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานครก็ได้ !
ข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ต้นไม้อายุมากที่สุด 3 อันดับในมหานครแห่งนี้คือ ต้นจันแห่งวัดยานนาวา ต้นตะเคียนทองแห่งวัดสุวรรณคีรี และต้นกร่างแห่งชุมชนศรีสุริโยทัยนั่นเอง
“ชีพจรเมือง” ฉบับนี้ อาสาพาไปดูปูทวดต้นไม้เหล่านี้ว่า วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง !
แชมป์ปู่ทวดต้นไม้ของเมืองกรุง ที่ถูกบันทึกไว้คือ “ต้นจัน” ที่วัดยานนาวา เขตสาทร อายุ 300 กว่าปี กว้าง 480 ซม. สูงประมาณ 20 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ติดกับคณะ ก.2 อยู่เยื้องๆ กับโบสถ์เก่ายุคอยุธยาของวัดนั่นเอง
พระสิริธีรคุณ (หลวงพ่อพรหมา ชยานันโท) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา เล่าว่า อายุที่แน่นอนไม่มีใครยืนยันได้ แต่จากการสำรวจและตรวจสอบจากกทม.พบว่า เป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้ ซึ่งเคยได้รับรางวัลที่ 2 ของการประกวดต้นไม้เก่าของกทม.มาแล้ว เพราะแต่เดิมวัดได้สร้างกุฎิพระ 3 หลังและมีกำแพงผ่ากลางต้นไม้นี้ขนาบเอาไว้
“เดิมทำเลที่ตั้งต้นไม้นี้ไม่โดดเด่น จึงได้เพียงอันดับที่ 2 แต่ตอนนี้ท่านเจ้าอาวาสได้รื้อกุฎิพระออกไป 3 หลัง แล้วทุบรั้วที่ผ่ากลางต้นจันออก บริเวณโคนต้นไม้กำลังปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดทำสวนหย่อมและลานจอดรถ ซึ่งจะทำให้ต้นจันต้นนี้ดูโดดเด่นมากขึ้น” พระสิริธีรคุณ อธิบาย
ต้นจันต้นนี้มีมาตั้งแต่สร้างวัดแห่งนี้ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดคอกควาย ในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเรียกว่า วัดคอกกระบือ ต่อมารัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ และต้นไม้ต้นนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญคู่มากับวัดจนถึงปัจจุบัน
“คนส่วนมากไม่รู้หรอกว่า นี่คือต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดของกรุงเทพมหานคร” ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กล่าว
ส่วน “รองแชมป์ปู่ทวดต้นไม้” ของบางกอกนั้น กลับเป็นต้นตะเคียนทองซึ่งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ในวัดสุวรรณคีรีแห่งเขตบางกอกน้อย หากต้องการยลโฉมแล้ว สามารถเข้าไปวัดนี้ได้ที่ซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยานั่นเอง
ต้นตะเคียนทองต้นนี้ตามข้อมูลระบุว่า มีอายุกว่า 250 ปี มีลำต้นกว้าง 470 ซม. สูง 35 เมตรกันเลยทีเดียว !
ป้าสดศรี จันทร์จร วัย 74 ปี ชาวบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับวัด และอยู่ใกล้ต้นตะเคียนทองต้นนี้เล่าให้ฟังว่า ต้นตะเคียงทองต้นนี้มีมาเมื่อใดไม่มีใครรู้ได้ แต่สมัยที่เธอเป็นเด็กบริเวณย่านนี้คือป่าไม้หลายชนิด ซึ่งขึ้นอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ส่วนต้นตะเคียงต้นนี้เดิมชาวบ้านจะเรียกว่าตะเคียนคู่ เพราะมีอยู่ 2 ต้น ซึ่งเกิดขึ้นเองอยู่ห่างกันเพียง 10 เมตรเท่านั้น
“ปัจจุบันเหลือเพียงต้นเดียวอย่างที่เห็น อีกต้นเห็นเพียงตอเท่านั้น เพราะในช่วงปี 2538 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ต้นตะเคียนอีกต้นแห้งตายลง ทางวัดจึงได้โค่นลงมาและนำไม้บางส่วนไปสร้างเป็นกุฎิพระ อีกส่วนหนึ่งนำมาสร้างเป็นเจ้าแม่ตะเคียนทอง แล้วนำมาประดิษฐานไว้โคนต้นตะเคียนต้นที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน คนแถวนี้จะมากราบไหว้ของพรเป็นประจำ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก” ป้าสดศรี เล่าให้ฟัง
จะเห็นได้ว่า บริเวณโดยรอบรองแชมป์ปู่ทวดต้นไม้แห่งนี้ดูร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะทางวัดได้ปลูกต้นไทร และต้นไม้อื่นอีกเป็นจำนวนมากเอาไว้โดยรอบ โดยมีการปูหินเป็นลานสวนหย่อมเอาไว้อย่างดี โดยมีคลองบางกอกน้อยโอบล้อมอยู่ด้านหลัง ปัจจุบันกำลังมีการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานครอยู่
ป้าสดศรีเล่าว่า วัดสุวรรณคีรีหรือวัดขี้เหล็กแห่งนี้ตั้งอยู่บนทางน้ำสามแพร่ง โดยมีคลองบางกอกน้อยเป็นแนวเขต ส่วนอีกด้านหนึ่งมีคลองชักพระพุ่งตรงเข้าหาวัด วัดจึงได้สร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรประดิษฐานเอาไว้ในซุ้มหน้าวัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากต้นตะเคียนทองมากนัก สร้างเอาไว้ตามความเชื่อที่ว่าเพื่อป้องกันอาถรรพ์อันเกิดจากอำนาจลึกลับและบริเวณย่านนี้ก็เป็นวัดเก่าโบราณมาก่อน และต้นตะเคียนทองก็เชื่อกันว่า เป็นต้นไม้ของรุกขเทวดา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ ใครๆ จะไปลบหลู่ไม่ได้
“ขนาดต้นคู่กันที่ตายไป มีบางคนมาขโมยเอาเศษไม้ต้นนั้นไปก็ยังต้องเอามาคืน เพราะเจอดีเข้า” ป้าสดศรีเผย
จะเห็นได้ว่า วัดสุวรรณคีรี สถานที่ตั้งของรองแชมป์ปู่ทวดต้นไม้เมืองกรุงนั้น เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาคงทรุดโทรมลง ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ที่นี่นับได้ว่าเป็นวัดเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในชุมชน และเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งในคลองบางกอกน้อย
แต่น่าเสียดายที่ความเป็นไปหรือเรื่องเล่าของประวัติศาสตร์ของต้นไม้เหล่านี้ที่มีมานานได้ถูกมองข้ามไปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง !
ส่วนต้นไม้เก่าแก่อันดับ 3 ถูกจารึกเอาไว้ มีอายุ 205 ปีเท่ากัน คือ ต้นกร่างแห่งชุมชนศรีสุริโยทัยแห่งเขตสาทร ต้นแสมดำใกล้วัดแสมดำแห่งเขตบางขุนเทียน และต้นจันที่วัดราชาธิวาสแห่งเขตดุสิต
จะขอกล่าวถึงเฉพาะ “ต้นกร่าง” ที่ชุมชนศรีสุริโยทัยในเขตสาทรเท่านั้น เพราะว่ากันว่า ที่นี่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป่าช้าวัดดอนมากนัก และต้นไม้นี้เล่าลือกันว่า “เฮี้ยน” กันน่าดู !
นายสุเวทย์ โชติวรรณพงศ์ อดีตประธานชุมชนศรีสุริโยทัยเล่าว่า ต้นกร่างต้นนี้ตั้งอยู่ด้านหลังชุมชนของเขา และอยู่ติดกับคลองวัดยานนาวา ปัจจุบันที่ตั้งของต้นกร่างอยู่ในบริเวณที่ดินของโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย และที่ดินของเอกชนรายหนึ่ง โดยมีช่องทางเล็กๆ (ซอยเจริญกรุง 55) เชื่อมมาถึงพอดี
เขาเล่าว่า เมื่อปี 2542 ต้นกร่างแห่งนี้ได้รับรางวัลชมเชยจากกรุงเทพมหานครในโครงการประกวดต้นไม้ใหญ่ในกรุงเทพมหานครอีกด้วย ซึ่งความใหญ่โตของมันที่แน่นอนนั้นเขาบอกไม่ได้ว่าเป็นเท่าใด
“แต่เท่าที่รู้พวกเราเอาผ้าแพร 7 สีมาผูกล้อมโคนต้นจะต้องเอาผ้าที่ยาวกว่า 19 เมตรมาล้อมเอาไว้ และบริเวณกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกไปกว้างไม่น้อยกว่า 90-100 เมตร ซึ่งหากมองเข้ามาแต่ไกลจะเห็นมันปกคลุมตึกสูง 5 ชั้นที่อยู่โดยรอบได้อย่างสบาย”
นายสุเวทย์เล่าว่า บริเวณโคนต้นกร่างแห่งนี้มีศาลเจ้าซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมานานชื่อ “ศาลเสด็จพ่อเทพาดำทุ่ง” ซึ่งจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองศาลเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จะจัดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ส่วนเรื่องเล่าขานที่กล่าวถึงอำนาจบางสิ่งบางอย่างที่อยู่กับปู่ทวดต้นไม้แห่งนี้ เขายืนยันว่า มีหลายครั้ง อย่างเมื่อครั้งที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยได้ทำรั้วโรงเรียน ซึ่งจะต้องสร้างเป็นแนวเส้นตรงโดยจะมาชนกับต้นกร่างพอดิบพอดี
“ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนงานก่อสร้างได้ตายไปหลายคน จนทางโรงเรียนต้องสร้างรั้วหลบต้นกร่างต้นนี้ ปล่อยให้ต้นไม้อยู่นอกกำแพงรั้ว แล้วจึงสร้างรั้วต่อได้จนสำเร็จ และเจ้าของที่อีกด้านจะสร้างตึก 4 ชั้นเป็นคอนโดนให้เช่า เจออาถรรพ์หลายอย่างจึงต้องถอยร่นแนวตัวคอนโดฯออกไปจากโคนต้นไม้นี้กว่า 10 เมตร เพราะกลัวอาถรรพ์จากต้นไม้แห่งนี้” เขาอธิบาย
นี่เป็นเพียงบางส่วนของปู่ทวดต้นไม้ของเมืองกรุง ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตให้ลูกหลานได้ศึกษาคุณค่ามาจนถึงวันนี้ !

ต้นไม้ผู้ยิ่งใหญ่ “กร่าง”
ต้นกร่างเป็นพรรณไม้ที่บุคคลระดับผู้นำ นิยมนำมาปลูกในบ้าน โดยเชื่อว่าเมื่อปลูกแล้วจะทำให้ได้รับการเคารพนับถือ มีคนเกรงใจ นับหน้าถือตา และทำให้ได้เป็นใหญ่เป็นโต
ต้นกร่าง เมื่อปลูกใกล้กับกับต้นไม้ชนิดอื่นๆ มักใช้รากและกิ่งก้านโอบล้อมต้นไม้เหล่านั้นไว้ ดุจว่าอยู่ในอุ้งมือ บางต้นสามารถโอบต้นตาลขนาดใหญ่ไว้ จนต้นตาลต้องตายไป กลายเป็นต้นกร่างที่มีโพรงไม้อยู่กลางลำต้น


ชื่อพื้นเมือง: กร่าง (ภาคกลาง)
ชื่อเดิม: ไทรทอง ลุง ฮ่างขาว ฮ่างเหลือง ไฮคำ
ชื่อบาลี: นิโครธ (นิ-โค-ระ-ธะ),
อชปาล-นิโครธ (อะ-ชะ-ปา-ละ-นิ-โค-ระ-ธะ),
นิโครโธ (นิ-โค-ระ-โธ)
ชื่อสันสกฤต: บันฮัน
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ficus bengalensis Linn.
ชื่อสามัญ: Bamyan Tree,Bar,East Indian Fig
ชื่อวงศ์: Moraceae
ถิ่นกำเนิด: พบทั่วไปในทวีปเอเซียเขตร้อนได้แก่ อินเดีย ลังกา พม่า ฯลฯ
สภาพนิเวศน์: สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิดที่ค่อนข้างชุ่มชื้น
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด นก ค้างคาว กินผลแล้วถ่ายมูลมีเมล็ดติดอยู่ หรือจะปักชำ ตอนกิ่งก็ได้
ประโยชน์: เปลือกต้น ใช้แก้อาการท้องเดิน แก้บิด ใช้เป็นยาชงลดน้ำตาลในเลือด เมล็ดใช้เป็นยาเย็นและยาบำรุง ผลใช้รับประทานใบใช้เผาพอกฝี รากมีลักษณะที่เหนียวใช้ทำเชือกได้ส่วน เปลือกชั้นในใช้ทำกระดาษ
ลักษณะทั่วไป: เป็น ไม้ต้นใหญ่พุ่มแผ่กว้าง ต้นของมันมีขนาดใหญ่และสูงประมาณ 10-20 เมตร ทรงต้นสง่าสมชื่อ เป็นไม้ผลัดใบ เรือนยอดกว้าง แตกกิ่งตำ มียางขางและรากอากาศ ลำต้นเป็นพูพอน เปลือกเป็นสีน้ำตาลปนกับสีเทา
ใบ: เป็น ใบเลี้ยงเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปรีหรือรูปไข่ แผ่นใบหนาขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 7-14 ซ.ม.
ดอก: เป็นดอกสีขาว ออกดอกเป็นช่อรวม ดอกย่อยอยู่ภายในฐานรองดอกที่ขยายตัว โอบล้อมเป็นรูปทรงกลม ดอก ออก กุมภาพันธ์ – มีนาคม
ผล: ผลเป็นแบบมะเดื่อ รูปกลมขนาดเล็กเป็นรูปทรงไข่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม.สุกสีเหลือง เมื่อสุกสีแดงเป็นอาหารที่นกชอบอีกชนิดหนึ่ง ภายในผลประกอบไปด้วยเมล็ดเล็กๆจำนวนมาก ผลออก มีนาคมถึงเมษายน
ด้านภูมิทัศน์: เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ควรมีเนื้อที่ เหมาะแก่การให้ร่มเงา และ ผลเป็นที่ชื่นชอบของนกอีกด้วย

ใบและผลต้นกร่าง/นิโครธ

ลักษณะด้านหลังใบและผลของต้นกร่าง/ต้นลุง

ต้นไทรหรือกร่าง (ต้นนิโครธ)
โพธิญาณพฤกษา
พันธุ์ไม้ที่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ประทับตรัส
นิโครธ หรือไทรนิโครธ ภาษาสันสกฤต “บันฮัน” ภาษาฮินดูว่า “บาร์กาต” บางที่เรียกว่า “ต้นอชปาลนิโครธ” อชปาลนิโครธ หมายถึง เป็นที่พำนักของคนเลี้ยงแกะ ต้นนิโครธ แปลว่า ต้นไทร ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว ได้ทรงประทับอยู่ ณ ภายใต้ร่มโพธิ์ต่อไปอีก 7 วัน จึงได้ทรงย้ายไปประทับต่อที่ใต้ร่มไทรนิโครธอีก 7 วัน

_%E2%BE%B8%D4%AD%D2%B3%BE%C4%A1%C9%D2%20
(%B5%E9%B9%E4%B7%C3%B9%D4%E2%A4%C3%B8)%205.jpg
ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 25 ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ กัสสปพุทธวงศ์ กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 27 พระนามว่า พระกัสสปพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วัน จึงได้ประทับตรัสรู้ ณ ควงไม้นิโครธ
ตามพุทธประวัติกล่าวถึง
ตอนที่ 1 พระพุทธเจ้าทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา
เมื่อพระพุทธองค์ได้ทรบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยาแล้วเสด็จไปประทับนั่งที่ควงไม้อชปาลนิโครธ ทรงรับข้าวมธุปายาส
ตอนที่ 2
เมื่อพระพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ใต้ต้นโพธิ์ 7 วันแล้วจึงได้ทรงย้ายไปประทับ ณ ต้นไทรนิโครธ เป็นเวลาอีก 7 วัน เป็นต้นไทรนิโครธชนิดใบกลม

ความเชื่อของชาวบ้านในชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณต้นกร่างที่ใหญ่ที่สุด ในกรุงเทพฯ
ตั้งอยู่ที่ ซ.ดอนกุศล ถ.เจริญกรุง เขตสาทร
ความเชื่อที่ 1
ชาวบ้านในชุมชนนั้นเชื่อว่าต้นไทรกร่างมีวิญญาณสิงสถิตอยู่เพราะเมื่อก่อน ที่ตรงนั้นเคยเป็นป่าช้ามีแต่ต้นไม้เช่นต้นกล้วยตานีและยังมีศาลเพียงตาอยู่ด้วย
ความเชื่อที่ 2
ชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่าพวกเขานับถือเสด็จพ่อ เทพาดำทุ่งกันมากเลยสร้างศาลเจ้าขึ้นชาวบ้านเชื่อว่าเสด็จพ่อ เทพาดำทุ่ง เป็นคนอิสลามดังนั้นเลยมีกฎที่ศาลสำหรับผู้ที่จะนำอาหารหรือสิ่งของมาเซ่นไหว้ว่าห้ามนำเนื้อหมู หัวหมูหรือสิ่งของที่เกี่ยวกับเนื้อหมูมาเซ่นไหว้เด็ดขาด
ความเชื่อที่ 3
ชาวบ้านเล่าว่ามีคนอิสลามมาทำพิธีกรรมพิธีหนึ่งลุงรักเล่าว่าการทำพิธีกรรมนี้เขาได้เห็นมาและจำขั้นตอนได้เป็นอย่างดีขั้นแรกนำน้ำมาล้างต้นไม้แต่จะล้างในบริเวณที่ไม่สูงมากนักเมื่อล้างเสร็จค่อยๆนำผ้ามาเช็ดให้แห้งตามด้วยปะแป้งแล้วจึงนำด้ายแดงมาพันรอบตามด้วยผงสีซึ่งจะมีทั้งสีแดง สีส้ม สีเหลืองแต่การทำพิธีลุงรักเล่าว่าชาวอิสลามจะทำตอนพลบค่ำหรือใกล้มืดไปแล้วและในระหว่างการทำพิธีนี้ชาวอิสลามจะไม่พูดคุยกับคนภายนอกไม่ว่าจะเดินเข้าไปถามก็ตาม
ความเชื่อที่ 4

ชาวบ้านบางคนเล่าว่าเคยเจอเสด็จพ่อ เทพาดำทุ่งและงูดำเลื้อยผ่านศาลส่วนใหญ่ชาวบ้านมักจะนำผลไม้มาเซ่นไหว้เช่น มะพร้าว กล้วยเป็นส่วนใหญ่ส่วนน้ำจะเป็นน้ำแดงส่วนพวงมาลัยมักจะเป็นดอกดาวเรืองและสิ่งของอีกอย่างที่จำเป็นนำมาเซ่นไหว้เลยนั่นคือ หมาก
ต้นไม้ใหญ่ในกรุงเทพมหานครมีอยู่มากมาย แต่มีที่น่าสนใจมากมีอยู่ต้นหนึ่ง เพราะเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา รายการตามไปดู ได้ไปบันทึกความยิ่งใหญ่ของต้นไม้ต้นนี้ และจัดให้เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครในขณะนั้น ในปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานใดที่สำรวจต้นไม้ในกรุงเทพมหานคร และจัดลำดับความยิ่งใหญ่ ดังนั้นต้นไม้ต้นนี้ยังคงเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร โปรดติดตามหนูมาซิคะ จะได้ทราบเรื่องราวของต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร


ต้นกร่าง ความยิ่งใหญ่กว่า 200 ปี
หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับต้นกร่างกันมาพอสมควรแล้ว อาจจะมีคำถามมาจากหลายท่านว่า แล้วเราจะไปหาดูต้นกร่างใหญ่ที่ไหนบ้าง หลายคนที่มีอายุมากหน่อย อาจะยังจำกันได้บ้างว่า เมื่อสิบกว่าปีก่อน รายการตามไปดูของหมอซ้ง ได้ยกกองมาถ่ายทำรายการต้นไม้ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ต้นไม้ดังกล่าวอยู่ที่เขตสาทร กลางกรุงเทพมหานครของเรานี่เองค่ะ
- การเดินทาง
ต้นกร่างนี้อยู่ที่ซอยเจริญกรุง 57 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพมหานคร สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะเดินทางมาดู ก็ลองดูแผนที่ก็ได้นะคะหาไม่ยากค่ะ แต่ซอยเจริญกรุง 55 ไม่สามารถเอารถยนต์เข้าได้นะคะ เพราะซอยเล็กมาก ขนาดมอเตอร์ไซต์ขับสวนกัน คันหนึ่งยังต้องจอดแอบให้อีกคันไปก่อน ดังนั้นถ้าขับรถมาก็ต้องไปเข้าซอยเจริญกรุง 57 แทน เมื่อเข้าซอยมาให้สังเกตโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยทางซ้ายมือ พอเลยรั้วโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ จะเห็นต้นกร่างสูงเด่นอยู่ข้างหน้า

ถ้ามองจากทางอากาศจะสังเกตได้ชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของต้นกร่างต้นนี้

- ใหญ่ 10 คนโอบ สูงเท่าตึก 7 ชั้น อายุกว่า 200 ปี
เมื่อมองจากทางเข้าซอยเจริญกรุง 57 จะเห็นต้นกร่างอยู่ตรงหน้า (ภาพที่ 1) ส่วนด้านซ้ายเป็นอาคารเรียนของโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยสูง 7 ชั้น จะเห็นได้ว่า ต้นกร่างสูงเท่ากับตึก 7 ชั้น แต่ทว่าที่เห็นนั้นเป็นต้นที่เกิดจากรากของต้นแม่ที่ขยายออกมา ต้นกร่างที่เป็นต้นแม่ถูกตึกบังอยู่ค่ะ

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ จะเห็นความใหญ่โตของต้นกร่างได้อย่างชัดเจน ต้นกร่างต้นนี้ขึ้นอยู่ชิดกำแพงรั้วโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย แล้วแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทุกทิศทาง บริเวณโคนต้นเป็นที่ตั้งของ “ศาลเสด็จพ่อเทพาดำทุ่ง” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวชุมชนบริเวณใกล้เคียง จะได้กลิ่นธูป ควันเทียนอยู่ตลอดเวลา

ต้นกร่างอยู่สุดซอยเจริญกรุง 55 ชาวบ้านบริเวณนั้นจะใช้เป็นที่พักผ่อน พุดคุยกัน เพราะความร่มเย็นของเงาไม้ ทำให้ผู้ที่เข้าไปใต้ต้นไม้จะรู้สึกเย็นสบาย แม้จะเป็นเวลาเที่ยงวันก็ตาม
จากภาพที่ 2 ต้นกร่างตรงกลางคือต้นแม่ที่มีอายุมากกว่า 200 ปีมาแล้ว ชาวบ้านซึ่งบริเวณนั้นล่าให้ฟังว่า ลองให้คนมาโอบล้อมต้องใช้คนกว่า 10 คน ส่วนความสูงก็เท่ากับอาคาร 7 ชั้นของโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กิ่งก้านที่แตกออกมามีขนาดแต่ละกิ่งต้องใช้คนโอบ 2-3 คน นับว่ามีขนาดใหญ่โตมากทีเดียว
ส่วนต้นทางซ้ายของภาพที่ 2 เป็นต้นลูกที่แตกกิ่งมาจากต้นแม่ มีอายุประมาณ 10 กว่าปี ซึ่งพาดคร่อมรั้วโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยพอดี ขนาดก็ใหญ่พอควร

ภาพที่ 3 ถ่ายโดยผู้จัดทำ

ภาพที่ 4 เป็นภาพของต้นกร่างต้นแม่ ที่ถ่ายภาพจากข้างล่างย้อนขึ้นไป ตึกด้านซ้ายเป็นตึกอาคารเรียนของโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ส่วนตึกทางขวาเป็นอาคารของชาวบ้านในชุมชน ระยะห่างระหว่าง 2 ตึก คือความกว้างของซอยเจริญกรุง 55
- ความประมหัศจรรย์ภายในต้นกร่าง
หากเดินเข้าไปที่โคนต้นกร่าง แทบไม่น่าเชื่อว่า ภายในต้นไม้จะมีความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่
ภาพที่ 1 จะเห็นโคนต้นที่ใหญ่มาก ลองเทียบกับถังขยะของกรุงเทพมหานคร ที่ตั้งอยู่อีกข้างของซอยดูซิคะ

ภาพที่ 2 เป็นบริเวณโคนต้นด้านหลังศาลเสด็จพ่อเทพาดำทุ่ง จะสามารถมองทะลุลอดโคนต้นไปยังด้านหน้าได้ ส่วนภาพที่ 3 เป็นภาพที่มองจากด้านหน้าศาลลอดไปยังด้านหลัง


ภาพที่ 4 ช่องที่สามารมองลอดได้นั้น คนทั่วไปสามารถที่จะเดินผ่านเข้าออกได้อย่างสบาย นอกจากนั้น ภายในต้นไม้ยังมีลักษณะของรากต้นไม้ที่ชาวบ้านบอกให้ฟังว่าเหมือนกับเป็นหัวของงูอีกด้วย ดังภาพที่ 5


ภาพที่ 6 เมื่อเข้าไปใช่องที่ลอดได้ แล้วเงยหน้าขึ้นไป จะเห็นรากของต้นกร่างพันกันไปมา

หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับต้นกร่างกันมาพอสมควรแล้ว อาจจะมีคำถามมาจากหลายท่านว่า แล้วเราจะไปหาดูต้นกร่างใหญ่ที่ไหนบ้าง หลายคนที่มีอายุมากหน่อย อาจะยังจำกันได้บ้างว่า เมื่อสิบกว่าปีก่อน รายการตามไปดูของหมอซ้ง ได้ยกกองมาถ่ายทำรายการต้นไม้ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ต้นไม้ดังกล่าวอยู่ที่เขตสาทร กลางกรุงเทพมหานครของเรานี่เองค่ะ
- อีกหลายๆมุมของต้นกร่าง
ภาพที่ 1 เป็นต้นกร่างที่เป็นต้นลูก ชาวบ้านที่มีอาชีพค้าขายในบริเวณนั้น จะใช้เป็นที่เตรียมของที่จะไปขาย
ภาพที่ 2 เหมือนภาพที่ 1 แต่มุมมองไกลมากกว่า
ภาพที่ 3 เป็นกิ่ง ก้าน และใบของต้นกร่าง




ต้นกร่าง แหล่งความรู้สำหรับนักเรียนในเขตสาทร ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ครูกัลยารัตน์ เมธีวีรวงศ์ ซึ่งเป็นหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ได้เล็งเห็นความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ที่จะได้ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่เป็นของจริง อยู่ใกล้กับสถานศึกษา

ต้นกร่างข้างรั้วโรงเรียน ที่ยังไม่เคยมีใครสนใจที่จะใช้เป็นแหล่งเรียนรู้มากว่า 200 ปี เมื่อได้ทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับต้นกร่างต้นนี้ จึงได้เกิดแนวคิดที่จะให้นักเรียนในชมรมต้นไม้คือชีวิต ซึ่งเป็นชมรมหนึ่งของนักเรียนที่มีความสามารถทางปัญญา ด้าน “ธรรมชาติ” ได้ศึกษาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552
เทปวิดิทัศน์ที่ท่านได้ชมข้างล่างนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดังกล่าว ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมคือ
- นักเรียนได้ทราบถึงสิ่งที่มีคุณค่าในชุมชนของตนเอง
- นักเรียนตระหนักที่จะหวงแหนสิ่งเหล่านี้ไว้ให้อยู่กับชุมชนต่อไป
- นักเรียนได้เห็นคุณค่าของต้นไม้ที่มีต่อชีวิต
- นักเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนจะร่วมกันรักษาแหล่งเรียนรู้นี้ให้อยู่คู่ชุมชน “ศรีสุริโยทัย” ตลอดไป
ที่มาของวีดิทัศน์ : http://www.suriyothai.ac.th/files/download/2.wmv
ถ่ายทำโดยครูโอภาศ ชื่นบานเย็น โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
ใช้โปรแกรม Windows Media Player 9.0 ขึ้นไปในการชม


ต้นไม้ เป็นปอดของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะคนกรุงเทพมหานคร การรู้จักรักษา ดูแลให้ต้นไม้คงอยู่กับมนุษย์ตลอดไปเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ รวมถึงปลูกฝังลงสู่เยาวชนรุ่นต่อๆไปด้วย ในฐานะที่ดิฉันเป็นหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องพัฒนาศักยภาพของนักเรียนทุกคนให้สูงสุดตามความสามารถของนักเรียน ดิฉันจึงให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนทำแบบประเมินความสามารถทางปัญญา (พหุปัญญา) เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง และเป็นแนวทางให้คณะครู อาจารย์ได้พัฒนานักเรียนได้ตรงตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจของนักเรียนอย่างแท้จริง จากผลการทำแบบประเมินพบว่า มีนักเรียนที่มีความสามารถทางปัญญาด้าน “ธรรมชาติ” มีมากถึง 513 คน ดิฉันจึงให้นักเรียนได้จัดตั้งชมรมตามความสนใจ และเมื่อมีนักเรียนสนใจที่จะจัดตั้งชมรม “ต้นไม้คือชีวิต” ดิฉันจึงรับเป็นที่ปรึกษาให้กับสมาชิกชมรมนี้ทันที นักเรียนสนใจที่จะศึกษาต้นไม้ทั้งหมดในโรงเรียน และเลือกต้นกร่าง เป็นต้นไม้ต้นแรกที่จะศึกษาอย่างจริงจัง จึงเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ดิฉันสนใจที่จะรวบรวมข้อมูล “ต้นกร่าง”ข้างโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยให้มากที่สุด และที่สำคัญ คือ ต้องการที่จะให้ทุกคนได้รู้จักแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญยิ่งแหล่งหนึ่ง และอยู่ติดกับโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยนี่เอง ต้องการให้นักเรียนได้ภาคภูมิใจว่า ในกรุงเทพมหานคร แม้จะมีต้นไม้ใหญ่เหลือเพียงไม่กี่ต้น แต่ “ต้นกร่าง” ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครต้นนี้ จะได้รับการดูแล รักษา ปกป้อง และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนและผู้สนใจตลอดไป

สิ่งที่ทำให้หนูสนใจที่จะสร้างสือการเรียนรู้เรื่องนี้ เนื่องจากต้นไม้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร อยู่ข้างๆ โรงเรียนของหนูนี่เอง แต่ด้วยความสงสัยและอยากรู้เพิ่มเติม คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของหนู เวลาที่หนูนั่งมองต้นไม้ต้นนี้
ถ้าชุมชนนี้ร่วมกันพัฒนา และส่งเสริมให้ต้นไม้นี้เป็นจุดขาย และพัฒนาปรับปรุงทัศนียภาพโดยรอบสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ คงจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนข้างโรงเรียนของหนู ได้เป็นอย่างดี

หนูขอขอบคุณแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่ให้ความกรุณา แบ่งปันข้อมูล ความรู้
คุณครูโอภาศ ชื่นบานเย็น ที่ช่วยบันทึกวีดิโอ
คำบอกเล่าของชาวบ้านในชุมชน
ซ.เจริญกรุง 55 และซ.เจริญกรุง 57 ถ.เจริญกรุง เขตสาทร กทม.
http://www.saunmitpranee.com/catalog.php?category=25
http://www.library.ssru.ac.th/archives/grang.html
http://www.bkknews.net/newbkk1/bkkkhun/detail.php?idnew=40
http://park.dnp.go.th/visitor/scenicsh ow.php?id=35
http://www.saunmitpranee.com/catalog.php?category=47
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=75&lg=1
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/attraction.asp
http://wowboom.blogspot.com/2009/09/general-sherman.html
http://www.bkknews.net/newbkk1/bkkkhun/detail.php?idnew=40
http://thainews.prd.go.th/forest/index.php?option=com_content&task=view&id=3&Itemid=4
http://www.rspg.thaigov.net/homklindokmai/budhabot/nikrot.htm
http://board.palungjit.com/f15/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%
B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%
E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%
B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%
A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%
97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%
A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%
9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%
9C%E0%B8%99-116248.html
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=link-conner55&month=10-2006&date=06&group=110&gblog=11
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetwind&group=2
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=saochiangmai&month=06-2007&date=04&group=2&gblog=14
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=984538
http://www.ryt9.com/s/bmnd/703770/
http://krudada.spaces.live.com/blog/cns!D0F59E76A9B96E27!171.entry
http://cgsc.rta.mi.th/cgsc/index.php?option=com_content&view=article&id=415:2009-05-25-13-26-47&catid=7:87&Itemid=25
http://www.saunmitpranee.com/catalog.php?category=47
ย่อ