วันออมแห่งชาติ
วันออมโลก (World Savings Day)

สร้างโดย : เบญจมาศ ภัคโชค
สร้างเมื่อ จันทร์, 30/03/2009 – 15:38
มีผู้อ่าน 9,595 ครั้ง (22/10/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/20859

วันออมแห่งชาติ
วันออมโลก (World Savings Day)

ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี

        วันออมโลก หรือที่เรียกว่า World Thrift Day เป็นวันหยุดที่เราเฉลิมฉลองในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี วันหยุดเน้นความจำเป็นของการออมเพื่ออนาคต มีเหตุผลมากมายที่คนเราจะต้องเก็บเงิน รวมถึงการเกษียณอายุ การศึกษา การซื้อทรัพย์สิน การแต่งงาน ฯลฯ เป็นการดีที่จะเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันและประหยัดเงิน แม้ว่าคุณจะยังไม่มีแผนเรื่องเงินก็ตาม ในบางสถานการณ์ การช่วยชีวิตเป็นเครื่องช่วยชีวิต เนื่องจากช่วยให้เอาชนะสถานการณ์ที่โชคร้ายอย่างกะทันหันได้ วิธีที่ดีในการเริ่มต้นการออมแต่เนิ่นๆ คือการใช้ทุนการศึกษาในช่วงชีวิตวัยเรียนของคุณ ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน?
        วันออมแห่งชาติ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันออมแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการออม รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน
         ในสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 เมษายนของทุกปี เป็นวัน National Teach Children to Save Day หรือวันสอนเด็กๆ ให้รู้จักการออมเงินแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินทั่วประเทศจะเข้าไปสอนเด็กๆ ในโรงเรียน ให้มีทักษะในการจัดการการเงินส่วนบุคคล และปลูกฝังให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของการออมเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง มีข้อมูลจาก American Bankers Association ว่าในปี 2005 นี้ มีธนาคารและสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการนี้ มากกว่า 2,500 แห่ง ซึ่งสามารถสอนเด็กๆ ได้กว่า 321,000 คน ทั่วประเทศ
         เรื่องการออมเงิน ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเงินออมไม่เพียงแต่จะสร้างความมั่นคงส่วนบุคคล หรือส่งเสริมความสงบเรียบร้อยทางสังคม แต่ยังช่วยลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง เราในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในสังคมไทย เราก็สามารถช่วยชาติได้ ด้วยการสอนเด็กๆ ให้รู้จักการออมเงิน และปลูกฝังให้เด็กๆ มีวินัยทางการเงิน  การสอนเด็กๆ ให้รู้จักวิธีการเก็บออมอย่างชาญฉลาด ทำได้ไม่ยากอย่างเช่น ทุกครั้งที่ให้เงินเด็กๆ ต้องสอนให้เด็กๆ เก็บเงินให้เพียงพอก่อน แล้วเงินส่วนที่เหลือจากการเก็บออม จึงค่อยนำไปใช้จ่าย ตามปกติคนไทยมักจะสอนลูกหลานให้รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด เราจึงมักกำชับเด็กๆ เสมอ เวลาให้สตางค์ไปกินขนมว่า ให้ใช้เงินประหยัดๆ และเหลือมาเก็บไว้บ้าง แต่เด็กๆ มักจะลงเอยที่ไม่มีเงินเหลือกลับมาเก็บเลย เพราะทั้งขนม ทั้งของเล่นมันมีเสน่ห์ดึงดูดให้เสียสตางค์ได้ทุกครั้งไป แล้วเด็กๆ ก็จะตั้งใจว่า ไม่เป็นไร คราวหน้าค่อยเก็บเงินก็ได้ เผลอแป็บเดียวกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีเงินออมไปซะแล้ว…!!!  กุศโลบาย ในการสร้างแรงจูงใจ ให้เด็กๆ อยากออมเงินให้ได้มากๆ อีกข้อหนึ่งที่ได้ผลเสมอ ก็คือ กำหนดเงื่อนไขการออมว่า หากเด็กๆ เก็บเงินได้ 90 บาท เราจะเติมให้เป็น 100 บาท และหากจะเพิ่มเงื่อนไขให้เด็กๆ ตั้งเป้าหมายในการออมเงินด้วย ก็จะเป็นการสอนที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
           เมื่อเด็กๆ โตขึ้น ต้องให้เขารู้จักบริหารเงินของตัวเอง โดยการให้เงินเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน แล้วสอนให้เขารู้จักวางแผนการออมเงิน และแผนการใช้จ่ายเงินล่วงหน้า รวมทั้งสอนให้รู้จักวางแผนเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเด็กๆ ทำได้ตามแผนการที่วางไว้ เราควรชื่นชมและแสดงความภูมิใจในผลสำเร็จนั้น
           การสอนให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของการวางแผนและการจัดการทางการเงิน ถือเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญยิ่ง เพราะในทุกๆ กิจกรรมในชีวิต มักมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ การเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย แต่เป็นไปเพื่อการสร้างความสุขและความสมดุลในชีวิต หากเราจัดการให้เกิดความสมดุลในชีวิตไม่ได้ เราอาจจะกลายเป็นทาสของเงินไปตลอดชีวิต การทำงานที่ควรจะเป็นไปเพื่อสร้างคุณค่าและการพัฒนาตนเอง ก็จะกลายเป็นการทำงานเพื่อหาเงิน….!!  ว่ากันว่า วัยที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างหรือปลูกฝังวินัย คือวัยเด็ก ถ้าอยากเห็นประเทศชาติพัฒนาอย่างยั่งยืน คงต้องร่วมมือร่วมใจกัน ส่งเสริมวัฒนธรรมการออมให้เกิดขึ้นทั้งกับเด็กๆ และตัวเราเอง.. เรามาเริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ…วันออมแห่งชาติ..31 ตุลาคม 2548……มีออม ไม่มีอด … ไม่อด ถ้ามีออม…

ประวัติวันออมโลก

           วันออมทรัพย์โลกเริ่มต้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2467 ในตอนท้ายของการประชุม International Thrift Congress ครั้งแรกในเมืองมิลาน วันดังกล่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยฟิลิปโป ราวิซซา ศาสตราจารย์ชาวอิตาลี ซึ่งเรียกวันนี้ว่าวันออมสากล แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วจากสมาคมต่างๆ ที่เห็นความสำคัญของการออมด้วย

           แม้ว่าจะมีบัญชีของแต่ละประเทศที่สังเกตวันออมทรัพย์ วันออมโลกทำให้แนวคิดนี้เป็นสากลมากขึ้น โดยนำผู้คนเข้าร่วมมากขึ้น นอกจากนี้ บางประเทศยังต้องการกำลังใจจากผลกระทบของสงคราม อย่างไรก็ตาม หลังสงครามโลกครั้งที่สอง การประหยัดก็เป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิม

           ความสำคัญของการออมทำให้ธนาคารเปิดรับผู้คนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา องค์กรพัฒนาเอกชนยังมีบทบาทสำคัญในการนำความสำคัญของการออมมาสู่เบื้องหน้า

           ในแต่ละปี วันออมโลกจะมีหัวข้อที่แตกต่างกันออกไปซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของการออม หัวข้อเหล่านี้สนับสนุนให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นมีนิสัยชอบออมทรัพย์ ในทำนองเดียวกัน ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ ได้คิดแผนการหลายอย่างที่ช่วยให้ผู้คนประหยัดเงินได้มากขึ้นและลงทุนอย่างมีความหมาย ในวันหยุดนี้ รัฐบาลและสถาบันต่างๆ เช่น โรงเรียนและสื่อต่างๆ สร้างความตระหนักเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนประหยัดเงินได้มากขึ้น

           วันออมทรัพย์โลกยังเป็นวันหยุดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อโน้มน้าวให้เด็กประหยัด กระปุกออมสินเป็นความคิดที่ดีเสมอมา เพราะมันสร้างความรู้สึกมั่งคั่งเมื่อเด็กๆ รู้ว่าพวกเขาประหยัดเงินได้มากแค่ไหน พูดตามตรง แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ชอบไอเดียกระปุกออมสิน!

HISTORY OF WORLD SAVINGS DAY

           World Savings Day started on October 30, 1924, at the end of the first International Thrift Congress in Milan. The day was officially launched by Filippo Ravizza, an Italian professor, who called it International Savings Day. The idea was quickly supported by various associations who also saw the importance of saving.

           Though there are accounts of individual countries that observe a day for saving, World Savings Day made the idea more universal, bringing more people on board. Also, some countries needed encouragement due to the effects of war. However, after the Second World War, thrifting became more popular than ever.

           The importance of saving prompted banks to open their doors to more people, especially in developing nations. Non-governmental organizations have also been very pivotal in bringing the importance of savings to the fore.

           Each year, World Savings Day has a different theme that encapsulates the spirit of saving. These themes encourage more people to engage in the habit of saving. Likewise, banks and other financial institutions have come up with several schemes that help people to save more and make meaningful investments. On this holiday, the government and institutions such as schools and media outlets raise awareness to encourage more people to save.

           World Savings Day is also a holiday that aims to influence children to save. Piggy banks have always been a good idea, as it creates a sense of wealth when the children realize how much they’ve saved. And let’s be honest, even adults love the idea of piggy banks!

แหล่งที่มา : https://nationaltoday.com/world-savings-day/