วันอ่านหนังสือแห่งชาติ National Read a Book Day
สร้างโดย : นายพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล

วันที่ 6 กันยายน ของทุกปี
วันอ่านหนังสือแห่งชาติ National Read a Book Day

          วันอ่านหนังสือแห่งชาติเป็นวันที่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม คุณได้รับการสนับสนุนให้ก้มหัวและจมอยู่กับเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ดีในการส่งเสริมให้ผู้อื่นอ่านหนังสือและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพวกเขา ท้ายที่สุดแล้ว มีประโยชน์หลายประการที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน ซึ่งรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามันสามารถลดความเครียดได้ เช่นเดียวกับการปรับปรุงสมาธิและความจำ ผลการศึกษาพบว่าผู้ใหญ่ที่ใช้เวลาอ่านหนังสือมักจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ตลอดชีวิต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจิตใจได้มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้อ่านหนังสือ และยังแสดงให้เห็นว่าการรับรู้ลดลงช้าลงอีกด้วย นอกจากนี้ หนังสือยังเป็นวิธีการเรียนรู้โลกและความสนุกสนานที่ไม่แพงอีกด้วย

          มีเหตุผลหลายประการที่เราแนะนำให้อ่านหนังสือ ไม่เพียงแต่ในวันอ่านหนังสือแห่งชาติเท่านั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณพบว่ามีเวลาเกินกำหนดในการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือทำให้คุณมีโอกาสได้นั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดและเพลิดเพลินไปกับความสงบและเงียบสงบในที่สุด นอกจากนี้ หากคุณเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ชอบคำคม คุณจะพบคำคมดีๆ มากมายเมื่ออ่านหนังสือ

คุณรู้ว่าคุณได้อ่านหนังสือดีๆ เล่มหนึ่ง เมื่อคุณพลิกหน้าสุดท้ายและรู้สึกราวกับว่าคุณได้สูญเสียเพื่อนไป
พอล สวีนีย์

          เหตุผลอื่นๆ ที่เราแนะนำให้อ่านหนังสือก็เพราะว่าภาพยนตร์ส่วนใหญ่สร้างจากนิยาย ซึ่งมักจะดีกว่าภาพยนตร์ ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงสิ่งต่างๆ มากมายที่คุณสามารถอัดเข้าไปในเวลาสองสามชั่วโมงบนหน้าจอ ในขณะที่หนังสือจะช่วยให้คุณเจาะลึกเข้าไปในการเดินทางได้ นอกจากนี้ หนังสือไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการอ่านนิทานที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น มีหนังสือมากมายที่สามารถเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตและช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ คุณจะแปลกใจว่าหนังสือประเภทนี้สามารถเปลี่ยนทัศนคติของคุณและนำสิ่งดีๆ มากมายมาสู่การดำรงอยู่ของคุณได้มากแค่ไหน

ประวัติศาสตร์วันอ่านหนังสือแห่งชาติ

          การเฉลิมฉลองวันอ่านหนังสือแห่งชาติครั้งแรกเกิดขึ้นประมาณปลายทศวรรษแรกของทศวรรษ 2000 และเกือบจะเป็นความคิดของบรรณารักษ์ ซึ่งอาจเป็นคนที่สนับสนุนให้เยาวชนอ่านหนังสือ
          แน่นอนว่ามีวันสำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ ในปี 1455 ผู้คนทั่วโลกได้รับโอกาสให้อ่านพระคัมภีร์กูเทนแบร์ก นี่เป็นหนังสือเล่มแรกที่พิมพ์จำนวนมาก ผลิตในเมืองไมนซ์ ประเทศเยอรมนี ตามชื่อบ่งบอกว่าเป็นพระคัมภีร์ ผลิตโดย Johann Gutenberg และเขียนเป็นภาษาละติน
          หนังสือเล่มแรกที่พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษคือ “The Recuyell of the Historyes of Troye” พิมพ์นี้โดย William Caxton ในปี 1473 ข้อความนี้เป็นการแปลเรื่องราวภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับทรอย เราต้องรอหลายร้อยปีกว่าหนังสือเล่มแรกจึงจะเขียนด้วยเครื่องพิมพ์ดีด นี่คือ “ทอม ซอว์เยอร์” ของมาร์ก ทเวน

ไทม์ไลน์วันอ่านหนังสือแห่งชาติ

4,000 ปีก่อนคริสตกาล
การเขียนเริ่มต้นขึ้นในเมโสโปเตเมีย

          ด้วยลายเส้นและเส้นลายเส้นที่แสดงถึงรูปสัตว์ต่างๆ จึงมีการทำเครื่องหมายไว้บนดินเหนียวซึ่งเป็นส่วนแรกของการเขียน

2300 ปีก่อนคริสตกาล
นักเขียนที่รู้จักเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

          เจ้าหญิงอักคาเดียนและนักบวชหญิงเอนเฮดูอันนาเขียนเพลงสวดและลงนามชื่อของเธอบนแผ่นดินเหนียว ข้อความเหล่านี้และข้อความในยุคแรกๆ เหล่านี้มีไว้เพื่อให้อ่านออกเสียง

ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราช
มีการจัดตั้งห้องสมุดแห่งแรก

ในตะวันออกกลางโบราณ ผู้ปกครองชาวอัสซีเรียในนีนะเวห์สร้างกลุ่มแผ่นจารึกรูปกางเขนมากกว่า 30,000 แผ่น

1450
Gutenberg ประดิษฐ์แท่นพิมพ์

สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งเพื่อการศึกษาได้รับการพัฒนาให้เป็นต้นแบบการทำงานในประเทศเยอรมนีโดย Gutenberg พร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

1800-1900
อัตราการรู้หนังสือเพิ่มขึ้น

ในขณะที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้การเข้าถึงหนังสือเพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการอ่านก็เพิ่มขึ้นสำหรับคนทั่วไปเช่นกัน
ที่มา : https://www.daysoftheyear.com/days/read-a-book-day/