สมัยศิลป์เก่า (Ars Antique)

ดนตรีในช่วงเวลาจากกลางศตวรรษที่ 12 ถึงปลายศตวรรษที่ 13 บางทีก็เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Ars Antique (The old Art) ซึ่งเป็นชื่อที่นักดนตรีรุ่นศตวรรษที่ 14 ตั้งชื่อย้อนหลังให้ ลักษณะของดนตรีในสมัยศิลป์เก่ามีลักษณะเป็นการสอดประสานแล้ว ซึ่งเรียกว่า ออร์แกนนั่มผู้นำคือ กลุ่ม นอเตอร์ เดม (Notre Dame) นอกจากนี้ยังเกิดการประพันธ์ในลักษณะใหม่ขึ้นเรียกว่า โมเต็ต (Motet) คือ การนำทำนองจากเพลงแชนท์มาเป็นแนวเสียงต่ำหรือแนวเบส และเพิ่มเสียง 2 เสียงเข้าไปโดยเสียงที่เพิ่มมีจังหวะการเคลื่อนที่ของตัวโน้ตเร็วกว่าเสียงต่ำที่มีตัวโน้ตจังหวะยาวกว่า
บางครั้งใช้เครื่องดนตรีเล่นแทนคนร้อง และมีเพลงอีกลักษณะหนึ่งเกิดขึ้น คือ คอนดุคตุส (Conductus)
คือ เพลงในลักษณะเดียวกับโมเต็ต แต่แนวเสียงต่ำแต่งขึ้นใหม่ มิได้นำมาจากทำนองของเพลงแชนท์แบบโมเต็ต ส่วนเนื้อหาของเพลงมีต่าง ๆ กันออกไปทั้งเกี่ยวกับศาสนา และเรื่องนอกวัด เช่น เรื่องการเมือง การเสียดสีสังคมเป็นต้น ลักษณะเด่นของ สมัยนี้คือ เริ่มมีการแต่งเพลงสองแนวจนถึงสี่แนว ในบางครั้งเพลงเริ่มมีอัตราจังหวะ ปกติมักเป็น 3/4,6/8หรือ 9/8
ปรากฏให้เห็นผู้ประพันธ์เพลงที่ควรรู้จัก คือ เลโอนิน และเพโรตินซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงเกี่ยวกับศาสนา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักร้องที่เล่นเพลงพื้นบ้านหลายกลุ่ม ซึ่งมักจะร้องแบบแนวเสียงเดียว ได้แก่
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ทรูบาดูร์” (Troubadours) อยู่ในแคว้นโปรวังซ์ (Provence) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 กลุ่มนี้ส่วนมากเป็นชนชั้นผู้ดีผู้มีอันจะกิน และ “ทรูแวร์”(Trouveres) อยู่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส กลุ่มนี้เจริญขึ้นหลังจากกลุ่มทรูบะดูร์เล็กน้อย ส่วนในประเทศเยอรมันมีพวกมินเนซิงเกอร์ (Minnesingers)เป็นผู้เผยแพร่เพลงขับร้องที่พรรณนาถึงความกล้าหาญของเหล่าอัศวินหรือรำพันถึงความรักที่หวานซึ้ง