A P P L E

 ที่มา : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/583/41583/images/app.jpg

แอปเปิ้ลผลขนาดกลางเพียง 1 ผล ล้างให้สะอาดโดยไม่ปอกเปลือก จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

•   ให้พลังงาน       80 แคลอรี่
•   วิตามิน B6        0.1 กรัม
•   วิตามิน C         7.9 มิลลิกรัม
•   ธาตุเหล็ก         0.2 มิลลิกรัม
•   ธาตุทองแดง     0.1 มิลลิกรัม
•   ธาตุโพแทสเซียม  158.7 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล

• แอปเปิ้ลช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด
 

          เอ็นไซม์ในแอปเปิ้ลช่วยในลดน้ำหนัก นอกเหนือไปจากวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังมีเอ็นไซม์ที่จะเผาผลาญสารอาหารช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น อุดมไปด้วยสารเพกติกซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้และเป็นสารคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียร้ายในระบบทางเดินอาหาร ตัวการที่ทำให้คุณเกิดอาการท้องร่วงและยังสามารถช่วยลดความดันโลหิตและลดคลอเลสเตอรอลที่อุดตันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี  การวิจัยบ่งชี้ว่า เมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมัน แยกคอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับคอเลสเตอรอลเหล่านั้น และนำไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง
           กรดผลไม้ทำให้หายอยากอาหาร เนื่องจากกรดผลไม้ที่มีอยู่ในแอปเปิ้ลสามารถช่วยควบคุมและยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแห่งความอยากอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลังจากคุณรับประทานแอปเปิ้ลไปซักผลสองผลคุณจะไม่มีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารอื่นใดอีกเลยและยังสามารถช่วยพยุงไม่ให้ระดับของโปรตีนในร่างกายลดต่ำลงและขณะเดียวกันก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันถูกดึงมาเก็บสะสมไว้ในร่างกายเพิ่มเติมอีก
          แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป อาหารแต่ละชนิดจะถูกย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้นๆ เช่น นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า คนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ จะมีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย และสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูงมาก จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน

          นอกจากนี้ในแอปเปิ้ลมีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนมาก จึงช่วยป้องกันโรคหวัด และโรคเลือดออกตามไรฟันได้และยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น จึงช่วยได้ทั้งอาการท้องผูกและท้องเสีย ผู้ที่มีอาการท้องผูก แอปเปิลช่วยระบายได้ มีรายงานด้วยว่าการรับประทานแอปเปิลโดยไม่ปอกเปลือก  จะช่วยลดอาการปวดท้องจากเชื้อโรคบิดได้ ถ้ารับประทานแอปเปิลมื้อละ 1 ผล เป็นประจำ จะช่วยขับเกลือที่มีมากเกินไปออกจากร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตค่อยๆ ลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่ความดันโลหิตสูง

Tips : สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก สามารถนำไปเป็นเทคนิคช่วยควบคุมน้ำหนักได้ง่ายๆ เช่นเวลาที่ต้องไปงานเลี้ยง เมื่อเริ่มตักอาหาร ให้ตักผลไม้ก่อน เลือกแอปเปิ้ล ส้ม หรือผลไม้ที่มีกากใยมากๆ รับประทานรองท้อง เพราะน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจะถูกดูดซึม ทำให้ความอยากอาหารลดลง จะทำให้เรารับประทานอาหารคาวได้น้อย แต่รู้สึกอิ่มกว่าอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตา และพบว่าแอปเปิ้ลลดคอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย ,ผู้ที่มีอาการท้องเสียนิดหน่อย รับประทานแอปเปิ้ลสับละเอียดติดต่อกัน 2 วัน
อาการท้องเสียจะค่อยๆ หายไป

Aware : การกินแอปเปิ้ลผลสด ๆ เท่านั้นที่มีสรรพคุณตามที่กล่าวมาข้างต้น
การดื่มน้ำแอปเปิ้ลไม่ทำให้หายหิว แถมทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วยจ้า

    ที่มา : http://image.dek-d.com/contentimg/mameaw_2/LS56/8.jpg

      • แอปเปิ้ลแดง มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีสารอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย

    • แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

    • แอปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก

    • แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกินแอปเปิ้ลสีเขียวนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย

แหล่งอ้างอิง : http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=59945
       http://www.dek-d.com/content/lifestyle/25503/