เจรจาซื้อแท็บเล็ตจีน 8 แสนเครื่อง

เผยนายกฯ สรุปจัดซื้อแบบ"จีทูจี"ไทย-จีน วงเงิน 1.6 พันล.สนนราคา 2,100/เครื่อง มอบ ก.ต่างประเทศ ต่อรองราคา/ไอซีทีเช็กสเปก7รุ่น สพฐ.เตรียมชงเอทีเอ็มเรียนฟรี
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.55 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้กับนักเรียนระดับชั้น ป.1 ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามนโยบาย One Tablet Pc per Child ของรัฐบาลว่า ขณะนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะไปเจราจาเช็คราคาแท็บเล็ต และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่จะไปตรวจสอบสเปกของเครื่องแท็บเลตจากประเทศจีน ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล (Government to Government) หรือจีทูจี ซึ่งในส่วนนี้ถือเป็นความพยายามที่ต้องการจะให้ได้จำนวนเครื่องมากที่สุด และเพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อให้นักเรียนชั้น ป.1 ได้ใช้แท็บเลตอย่างทั่วถึง ดังนั้นเมื่อมีงบประมาณเท่าไร ก็ต้องพยายามหาแนวทางให้ได้ในแท็บเล็ตที่มีราคาอยู่ในวงเงินเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้คงเป็นมาตรการของรัฐบาลต่อรัฐบาลในการเจรจากับประเทศจีนต่อไป
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการใช้งานเครื่องแท็บเลตนั้น มีความชัดเจนมากขึ้น โดยระยะแรกในช่วงภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จะไม่เน้นการเข้าระบบอินเตอร์เน็ต แต่จะเน้นการใช้งานในระบบออฟไลน์ เนื่องจาก สพฐ.ได้เตรียมสาระการเรียนรู้หลักจัดใส่ในแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นป.1 อย่างเพียงพอแล้ว อีกทั้งเด็กยังอยู่ในช่วงวัยที่ยังไม่จำเป็นที่จะต้องไปสืบค้นข้อมูลในโลกกว้างมากนัก ตลอดจนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายก็ยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม สพฐ.จะเตรียมความพร้อมแก่ครูในการใช้เครื่องแท็บเล็ต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำหลักสูตรอบรมครู เพื่อที่จะดำเนินการในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อสรุปล่าสุดจากการประชุมที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมให้จัดหาแท็บเล็ตจำนวน 8 แสนเครื่อง ในวงเงิน 1,680 ล้านบาท โดยใช้วิธีการทำความตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ในราคาเครื่องละ 2,100 บาท โดยให้กระทรวงไอซีที ไปทดสอบแท็บเล็ตของจีน ทั้ง 7 รุ่น ว่าผ่านมาตรฐานของไทยหรือไม่ และให้กระทรวงต่างประเทศ เป็นผู้เจรจาเรื่องราคา จากนั้นให้สำนักงบประมาณเป็นผู้จ่ายเงินให้จีน ด้วยการบริหารเงินจากงบประมาณที่ ศธ.มีอยู่
เลขาธิการ กพฐ. ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพในปีการศึกษา 2555 ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในรายการที่จัดสรรให้นักเรียน เช่น อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน จะทำเป็นรายการให้ผู้ปกครองนักเรียนได้เลือกและการซื้อจะยืดหยุ่น ทั้งนี้ จะเสนอทางเลือกโดยจะให้ทำบัตรเติมเงินคล้าย เอทีเอ็ม หรือการแจกเงินสดเหมือนปีที่ผ่านมาให้ผู้ปกครองนักเรียน โดยทั้งหมดนี้คงต้องรอดูนโยบายของ ศธ.อีกครั้งว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร