กัณฑ์ที่ 13 นครกัณฑ์ มี 48
พระคาถา
เมื่อพระเวสสันดรราชฤาษีได้สดับคำพระราชดำรัสเชื้อเชิญให้ลาผนวชออกไปครองราชย์สมบัติ ก็รับสั่งทูลพ้อพระราชบิดา ประวิงการรับอาราธนาไว้พลางก่อนว่าเมื่อกระหม่อมฉันปฎิบัติราชกรณียกิจโดยทศพิธราชธรรม ไฉนพระราชบิดาจึงลงโทษเนรเทศจากพระนคร มารับความทุกข์ยากแค้นแสนสาหัสในพงไพรไม่สมควรเลยพระเจ้าข้า?
พระเจ้ากรุงสัญชัยตรัสสารภาพรับผิด เป็นด้วยพ่อเขลาหลงเชื่อคนยุยงลงโทษลูกซึ่งหาความผิดมิได้ ตรัสขอขมาโทษ แลตรัสวอนพระราชโอรส ให้ลาผนวชออกไปรับราชสมบัติ
ต่อนั้นพระเวสสันดรจึงทรงรับเชิญ ทรงลาผนวชพร้อมทั้งพระนางมัทรี เสด็จเข้ามงคลพระราชพิธีราชาภิเษก ในมงคลสถานซึ่งเจ้าพนักงานจัดสร้างขึ้นในบริเวณอาศรมนั้น ครั้นได้ฤกษ์กำหนดกาลกลับคืนเข้าพระนคร ก็ทรงเครื่องราชูปโภคแบบพระมหากษัตริย์เสด็จนิวัติกลับพระนคร พร้อมด้วยพระเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ด้วยจาตุรงคเสนาพร้อมด้วยสรรพาวุธเสด็จขึ้นคชสารปัจจัยนาคช้างพระที่นั่งท่ามกลางเสนามาตย์ราชบริพาร เดินทางรอนแรมมาอย่างสบายมิได้เร่งร้อน เป็นเวลาสองเดือนก็ถึงพระนครสีพีซึ่งได้รับการตกแต่งให้งดงามเป็นอย่างด้วยธงชัย และต้นกล้วยต้นอ้อยสองข้างมรรค ประชาชนพากันมาต้อนรับเนืองแน่นโห่ร้องถวายพระพรชัยให้ทรงพระเจริญในพระราชสมบัติอย่ารู้โรยรา ทั้งพระนางมัทรีราชชายา และพระชาลีพระนางกัณหาตลอดพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วกัน
เมื่อพระเวสสันดรเสด็จขึ้นปราสาทแล้วรับสั่งประกาศให้ชาวเมืองปล่อยสัตว์ที่กักขังไว้ให้หมด ครั้นเวลาราตรีก็ทรงรำพึงว่า พรุ่งนี้ประชาชีต่างก็จะแตกตื่นกันมาคอยรับพระราชทานแล้วจะได้สิ่งใดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั้งหลายเหล่านั้นทันใดนั้นท้าวโกสีย์ทรงทราบความปริวิตกของพระเวสสันดรแล้ว ก็ทรงบันดาลฝนแก้ว 7 ประการให้ตกลงในพระนครสีพีสูงถึงหน้าแข้ง เฉพาะในพระราชวังท่วมถึงเอวพระเวสสันดรทรงประกาศให้ประชาชนมาขนเอาไปตามปรารถนาเหลือนั้นก็ให้ขนเข้าท้องพระคลังหลวง
พระเวสสันดรเสด็จเถลิงราชสมบัติปกครองพระนครสีพีโดยทศพิธราชธรรมให้บ้านเมืองเป็นสุขตลอดพระชนมายุ เมื่อสิ้นพระชนแล้วก็ขึ้นไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตเทวโลก
จบความย่อ ปี่พาทย์ทำเพลงกลองโยน
ผู้บูชากัณฑ์นครกัณฑ์ จะได้เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติ ข้าทาส ชายหญิง ธิดา สามี หรือบิดามารดาเป็นต้น อยู่พร้อมหน้ากันโดยความผาสุก ปราศจากโรคาพาธทั้งปวง จะทำการใดๆก็พร้อมเพรียงกันยังการงานนั้นๆให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
|